Tuesday, August 16, 2011

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม.ชี้ ไทยไม่เสียเปรียบเขมรขึ้นทะเบียนท่ารำ ( Traditional Thai Dance )-หนังใหญ่



นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า จะมีการแจ้งวาระให้กับครม.เพื่อทราบ กรณีที่ประเทศกัมพูชาได้ขึ้นทะเบียนท่ารำและหนังใหญ่ ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย ตรงนี้ขอชี้แจงว่าเป็นคนละเรื่องกับเรื่องลิขสิทธิ์ เพราะการขึ้นทะเบียนเป็นเพียงการแจ้งว่า มีการสงวนเรื่องการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ภายในประเทศนั้น ดังนั้นจึงไม่เป็นการลิดรอนสิทธิ์ของไทย ถ้าในอนาคตเราได้เข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญา ว่าด้วยการอนุรักษ์มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และในเร็ววันนี้เราก็จะมีการเร่งร่างกฎหมายเพื่อขอเข้าร่วมเป็นภาคีอนุสัญญา ว่าด้วยการอนุรักษ์มรดกที่จับต้องไม่ได้ แต่ทั่งนี้ก็ยังมีเรื่องรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เรื่องการทำอนุสัญญาระหว่างประเทศ ที่จะต้องนำเรื่องเข้าครม. และผ่านความเห็นชอบทั้งจากครม. และรัฐสภา ตรงนี้ต้องใช้เวลาเล็กน้อย เพราะมีกรอบเวลา

ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเสนอเป็นมรดกโลกในนามของไทย โดยเสนอตัดหน้าประเทศกัมพูชา รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า วันนี้เรายังไม่ได้เข้าเป็นภาคี เพราะฉะนั้นเราจึงยังไม่สามารถเสนออะไรได้

เมื่อถามย้ำว่า เราเข้าเป็นภาคีได้เมื่อไหร่จะเสนอตัดหน้ากัมพูชาใช่หรือไม่ นางสุกุมล กล่าวว่า วัฒนธรรมของแต่ละชาติมีความคล้ายคลึงกัน ตอนนี้ในการจดทะเบียนของยูเนสโก( UNESCO ) ก็มีหลายเรื่องที่เป็นวัฒนธรรมของหลายประเทศ เช่น ท่าเต้นแทงโก้ ( Tango Dance ) ก็มี 2 ประเทศที่มีการจดร่วมกัน คือ อุรุกวัย ( Uruguay ) และ อาร์เจนติน่า ( República Argentina )ถือว่าเป็นวัฒนธรรมร่วมไม่มีผลกระทบอะไรกับเรา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่มีการบอกว่าจะเร่งเข้ากรอบภาคี จะมีการกำหนดกรอบระยะเวลาหรือไม่ รมว.วัฒนธรรม ว่า ตามรัฐธรรมนูญ 190 เราต้องเสนอเรื่องเข้าสภา และควรเร่งดำเนินการ แต่กำหนดไม่ได้ว่า จะเป็นสัปดาห์ หรือเดือนไหน แต่ยืนยันได้ว่าจะเร่งดำเนินการเร็ว ๆ นี้ เพราะถือเป็นภารกิจเร่งด่วน และอยู่ในความสนใจของประชาชน และจะต้องมีความเข้าใจตรงกันว่าไม่มีผลกระทบใด ๆ สำหรับอนาคตที่ไทยจะเข้าไปเป็นภาคี เราก็ยังสามารถขึ้นทะเบียนของเราได้เป็นปกติ และในวันนี้เราได้ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมวัฒนธรรมในประเทศไทย ถือว่าเป็นการแสดงออกว่าเรามีวัฒนธรรมตรงนี้ในประเทศไทย

“ ถ้ากัมพูชาเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกไปแล้ว ไทยสามารถเข้าเป็นภาคี แล้วเสนอเป็นวัฒนธรรมร่วม คือ เราก็มีของเรา แต่อาจจะมีความแตกต่างกันบ้างเล็กน้อย เช่นท่ารำ เครื่องแต่งกาย โดยมีหลายอย่างที่อัตลักษณ์ของแต่ละประเทศ” นางสุกุมล กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าการที่กัมพูชานำเรื่องดังกล่าวขึ้นทะเบียน ไม่มีผลต่อประเทศไทยใช่หรือไม่ นางสุกุมล กล่าวว่า ไม่มีผลอะไรกับประเทศไทย เป็นเพียงการยืนยันว่ามีวัฒนธรรมอย่างนี้อยู่ในประเทศเขาเท่านั้น อย่างไรก็ตามตนจะเชิญนักวิชาการ และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมสัมมนา เข้ามาร่วมพูดคุยกันเพื่อให้ประชาชนมีความเข้าใจ ในเรื่องนี้มากขึ้น และเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งเป็นการลดความกังวลของประชาชน

เมื่อถามว่า จากการพูดคุยกับกระทรวงการต่างประเทศมีความเห็นในเรื่องนี้อย่างไร นางสุกุมล กล่าวว่า ทุกฝ่ายยืนยันตรงกันว่าจะต้องเร่งทำร่างกฎหมายเข้าสภาโดยด่วน