Thursday, August 25, 2011

พบรอยแยกที่อนุสาวรีย์วอชิงตัน หลังแผ่นดินไหว


เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐ กำลังอยู่ระหว่างการประเมินมูลค่าความเสียหายของสถานที่สำคัญมีเสียงที่สุด ในกรุงวอชิงตัน ดีซี หลังเกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.8 ริคเตอร์ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา สำนักงานอุทยานห่งชาติ ระบุว่า ทีมวิศวกรโครงสร้าง ได้พบรอยแยกเพิ่มขึ้นที่ส่วนบนสุดของอนุสาวรีย์วอชิงตัน และวิหารแห่งชาติเสียหายจากการที่มีอิฐร่วงลงมากองกับพื้น

การตรวจสอบความเสียหายครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกที่รุนแรงที่สุดในรอบ 67 ปี แต่คณะวิศวกรระบุว่า ความเสียหายเหล่านี้จัดว่าเล็กน้อยเท่านั้น

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า สิ่งปลูกสร้างในเมืองหลวง ทั้งในเรื่องของสถาปัตยกรรมและโครงสร้างที่ไม่เคยชินกับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวมาก่อน ได้มีความพร้อมที่จะรับมือกับแผ่นดินไหวที่รุนแรงหรือไม่ ส่วนการซ่อมแซมความเสียหาย คาดว่าจะต้องใช้งบหลายล้านดอลล่าร์ และประกันไม่ได้ครอบคลุม

แผ่นดินไหวล่าสุด ที่รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนได้ตั้งแต่รัฐจอร์เจีย ไปจนถึงประเทศแคนาดา ได้ส่งให้ต้องส่งทีมวิศวกรเข้าไปสำรวจโครงสร้างของสถานที่สำคัญหลายแห่ง รวมทั้งสะพานและโรงงานนิวเคลียร์ ส่วนตัวเลขความเสียหาย คาดว่าจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์กว่าจะทราบ ขณะที่ประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันแต่อย่างใด

ย่านธุรกิจทั้งหมดในเวอร์จิเนีย ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหว พากันปิดทำการโรงเรียนปิดการเรียนการสอนนาน 2 สัปดาห์ เพื่อให้วิศวกรเข้าไปตรวจสอบรอยร้าวของอาคารหลายแห่ง อนุสาวรีย์วอชิงตัน ซึ่งมีความสูง 555 ฟุต ได้เกิดรอยแยกบนส่วนยอดยาว 10 เซ็นติเมตร และพบความเสียหายนี้ ในระหว่างการใช้เฮลิคอปเตอร์บินสำรวจ ซึ่งไม่สามารถมองเห็นได้จากบนพื้นดิน ทำให้อนุสาวรีย์ที่ได้ชื่อว่า เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงที่สุดในกรุงวอชิงตัน ได้ปิดให้บริการอย่างไม่มีกำหนด ซึ่งที่ผ่านมา ภัยธรรมชาติไม่เคยทำให้อนุสาวรีย์แห่งนี้ได้รับความเสียหาย รวมทั้งเหตุแผ่นดินไหวที่รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อปี 2440 และที่นิวยอร์ค เมื่อปี 2487