Wednesday, April 28, 2010

AP ชี้วิกฤติการเมืองเสื้อแดงไม่เป็นแบบที่เคยมีในอดีต






บทความโดยเดนนิส เกรย์ จากสำนักข่าวเอพี ระบุว่า วิกฤตการณ์การเมืองของไทยครั้งนี้ ไม่มีรูปแบบของวิกฤติการณ์การเมืองแบบไทยๆ อย่างที่เคยเป็นในอดีต ครั้งหนึ่งคนไทยเคยภูมิใจกับการแก้ปัญหาต่างๆด้วยแบบไทยๆ โดยยึดหลัก "ลู่ตามลมแบบต้นไผ่" อย่างเมื่อต้องเจอกับพวกล่าอาณานิคม การเลี่ยงความรุนแรงทางการเมือง หรือปัญหาในครอบครัว คนไทยมีชื่อมากในเรื่องการดำเนินการทางการทูตอย่างเชี่ยวชาญ การรอมชอม และเลี่ยงการเผชิญหน้า ซึ่งดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จด้วยดี ก่อนจะเกิดวิกฤตการณ์เมืองปัจจุบัน ที่ยังมองไม่เห็นทางออก และดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่มีใครจะปลดล็อคได้

คนไทยมองว่า แนวทางแก้ปัญหาแบบเก่าอย่างการยินยอมของทั้งสองฝ่าย เป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหา แต่หลังการเจรจา 3 รอบ และยังแก้ปัญหาอะไรไม่ได้ ทำให้หลายคนมองว่าสงครามกลางเมืองมีแนวโน้มที่จะเข้ามาในประเทศ

เอพีมองว่า ประเด็นที่เป็นตัวผลักดันการประท้วง และทำให้การรอมชอมแบบเก่าเป็นไปได้ยาก คือการมองว่าอภิสิทธิ์ชนในเมืองกรุง ปฏิบัติกับชาวชนบทเหมือนประชาชนชั้น 2 พวกเขาต้องการเปลี่ยนแปลงระบบ ขณะที่ก่อนหน้านี้ประเทศไม่เคยแบ่งเป็นขั้วอย่างชัดเจนแบบนี้ เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายย้อนกลับไปมองความผิดพลาดของการรอมชอมในครั้งอดีต ที่บางฝ่ายบอกว่าทำให้คนไทยมองไม่เห็นความผิดพลาดของระบบ ขณะเดียวสังคมไทยก็ถูกทำให้มองกันว่าเป็นสังคมของการรอมชอม ประเทศไทยเป็นดินแดนสยามเมืองยิ้ม ซึ่งไม่เป็นความจริง

แต่นักวิเคราะห์บางคนบอกว่า ยังไม่สายเกินไปสำหรับการหาทางออกจากปัญหาอย่างสันติ เพราะทั้งสองฝ่ายต่างเห็นพ้องกันว่าควรยุบสภา และมีความเห็นที่แตกต่างกันน้อยลงว่าควรยุบเมื่อใด แต่ขณะบางฝ่ายบอกว่าการเลือกตั้งจะช่วยยุติปัญหา อีกฝ่ายก็บอกว่าหลังการเลือกตั้ง กลุ่มที่ต่อต้านฝ่ายที่สนับสนุนทักษิณ ก็จะกลับมาอีก บางฝ่ายจึงตั้งความหวังว่าน่าจะมีการเจรจากันอีก จนถึงตอนนี้สามารถสรุปสถานการณ์ต่างๆได้ว่า ฝ่ายที่เป็นปัญหาอยู่ในสภาพชะงักงันโดยสมบูรณ์ ไม่มีฝ่ายใดจะชนะโดยไม่บาดเจ็บสาหัส ทั้งสองฝ่ายต้องยอมถอยอย่างมากและในเร็ววัน หาไม่แล้ว สงครามกลางเมืองจะมาแน่