Thursday, August 18, 2011

หาหลักฐานเหตุไฟไหม้ Le Raffine Jambu Dvipa, Sukhumvit 39 คอนโดหรูกลางกรุงฯ



เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ส.ค. พญ.มาลินี สุขเวชชวรกิจ รองผู้ว่าฯกทม. น.ส.อมรรัตน์ กฤตยานุวัตร ผอ.เขตคลองเตย พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน สำนักการโยธา กทม. กรมโยธาธิการและผังเมืองกระทรวงมหาดไทย ร่วมประชุมวางแผนการเข้าตรวจค้นร่องที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ "เลอรัฟฟิเน่ คอนโด" คอนโดมิเนียมหรู ในซอยสุขุมวิท 24 เลขที่ 52/1 -52-57 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. (Le Raffine Jambu Dvipa, Sukhumvit 39)

พญ.มาลินี กล่าวว่า จากการตรวจสอบขณะนี้พบว่าเหตุเพลิงไหม้เมื่อวานนี้(17 ส.ค.) มีห้องได้รับความเสียหายเพียง 1 ยูนิต คือห้อง 18เอ ทั้งนี้ ทางสำนักงานเขตคลองเตยได้ติดประกาศห้ามใช้อาคารเป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.เนื่องจากเกิดเหตุเพลิงไหม้ เพื่อให้ทางสำนักการโยธา กทม. กรมโยธาธิการและผังเมืองกระทรวงมหาดไทยเข้าตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุของเพลิงไหม้ในครั้งนี้

พญ.มาลินี กล่าวว่า สำหรับปัญหาเรื่องระบบน้ำที่ใช้ดับเพลิงอัตโนมัติของคอนโดฯนี้ จากการสอบถามผู้จัดการอาคารทราบว่า ใช้ระบบป้องกันเพลิงไหม้แบบระบบวัดความร้อนโดยจะทำงานเมื่ออุณหภูมิสูง 65 องศาเซลเซียส ไม่ได้ใช้ระบบควันแบบในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นอาคารที่สร้างตั้งแต่ปี 2533 และเปิดใช้เมื่อปี 2536 มีอายุกว่า 18 ปี ซึ่งสร้างก่อนที่จะมีกฎหมายบังคับใช้ในการดูแลความปลอดภัยและป้องกันเหตุเพลิงไหม้อาคารสูง แต่ตอนที่เกิดเหตุแม้ระบบดับเพลิงอัตโนมัติจะไม่ทำงานแต่สัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้น ทำให้สามารถแจ้งหน่วยดับเพลิงและอพยพคนในตึกได้ทันท่วงทีถือว่าใช้ได้

“ส่วนเรื่องการตรวจสอบมาตรฐานการดูแลอาคารสูงทั่ว กทม. เราได้มีการสุ่มตรวจเป็นประจำอยู่แล้ว โดยอาคารสูงต่างๆ จะต้องมีระบบป้องกันเหตุเพลิงไหม้ และมีการซักซ้อมดับเพลิงและอพยพผู้อยู่ในอาคารด้วย” พญ.มาลินี กล่าว

ด้าน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ กล่าวว่า ทั้งนี้จะต้องมีเรียกสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องรวม 4 กลุ่มคือ 1.กลุ่มนิติบุคคลเจ้าของอาคาร รวมทั้งนายพรภูมิ ตรีบุตรา ผู้จัดการคอนโดฯ ว่ามีการวางระบบดูแลรักษาความปลอดภัยอาคารว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่ 2.นางพรรณี เลี่ยวไพรัตน์ ซึ่งมีชื่อเป็นเจ้าของห้อง 3.กลุ่มผู้ได้รับบาดเจ็บซึ่งอยู่ใกล้ชิดกับเหตุการณ์และถือเป็นผู้เสียหาย 4.เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย เข้าไปดับเพลิงซึ่งถือเป็นผู้เข้าไปยังห้องต้นเหตุได้ก่อนซึ่งจะสามารถระบุได้ว่าระบบน้ำดับเพลิงอัตโนมัติทำงานได้หรือไม่อย่างไร

ส่วนของการดำเนินคดีการดำเนินคดีจะต้องแบ่งเป็น 2 ส่วนตามประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวการกระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้ซึ่งจะต้องมีการดำเนินคดีกับเจ้าของห้อง และ การดำเนินคดีเกี่ยวกับนิติบุคคลเจ้าของอาคาร ที่ต้องตรวจสอบความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ว่ามีการดูแลระบบรักษาความปลอดภัยถูกต้องแค่ไหน หากพบมีการกระทำผิดต้องดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งหากได้เอกสารสรุปหลักฐานที่ทาง กทม.รวบรวมได้ครบเมื่อใดก็คาดว่าจะสามารถดำเนินคดีได้ภายใน 1 เดือนต่อจากนั้นทันที

ด้านนายพินิต เลิศอุดมธนา ผอ.สำนักการโยธา กทม. กล่าวภายหลังตรวจห้อง 18 เอ ซึ่งเป็นห้องต้นเพลิงว่า จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นไม่ส่งผลต่อโครงสร้างของอาคาร มีเพียงห้องต้นเพลิงที่ได้รับความเสียหายจึงต้องทำการสั่งปิดพื้นที่ส่วนนี้ไว้ก่อนเพื่อให้ผู้รับผิดชอบอาคารเข้าทำการซ่อมแซม โดยเฉพาะพื้นห้องซึ่งอาจส่งผลต่ออาคาร จากนั้นก็ต้องยื่นผลการซ่อมแซมเพื่อให้ทาง กทม.เข้าตรวจสอบก่อนอีกครั้งเพื่ออนุมัติให้เปิดใช้พื้นที่ดังกล่าวต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 12.45น. เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ขึ้นไปตรวจห้อง 18A ต้นเพลิง พบว่าได้รับความเสียหายเพียงห้องเดียว พร้อมนำชิ้นส่วนซึ่งเป็นแผ่นเหล็ก 1 ชิ้นที่ได้จากห้องที่เกิดเหตุนำไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้ได้ต้องรอผลตรวจสอบก่อน