Wednesday, September 29, 2010

“จุ๊น” หักช่อง 3 ควงทนายแถลงขู่ฟ้อง โดยมีพี่ชายคอยกำกับ เจอนักข่าวซักเละ


“จุ๊น” ควงทนายแถลงขอลาออกช่อง 3 เหตุไม่อยากตกเป็นเครื่องมือ ย้ำชัดไม่มีสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับ “แอนนี่” ยินดีให้ตรวจดีเอ็นเอ อึกอักโอนเงิน 2 แสนให้ฝ่ายหญิง รับได้ปรึกษา "สมรักษ์" จริง แต่ไม่บอกว่าเรื่องอะไร อ้างจะพูดในชั้นศาล ขู่ถ้าใครพูดพาดพิงอีกอาจมีฟ้อง
     
       เป็นเรื่องบานปลายที่มีตัวละครเพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ สำหรับกรณีของ “ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์” กับ “แอนนี่ รุ่งนภา บรู๊ค” ที่ล่าสุด ดาราหนุ่มจากวิก 3 “จุ๊น กิตติคุณ” ถูกผู้ใหญ่จากฝั่งอาร์เอส อย่าง “เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” คอนเฟิร์มมาว่า มีสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาวกับ “แอนนี่” และถูกต้องสงสัยเป็นพ่อของ “น้องทีฆายุ” อีกราย โดยบอกตัวดาราหนุ่มเป็นคนโทร.มาเล่าเรื่องนี้ให้ผู้ใหญ่ช่อง 3 ฟังเอง


Friday, September 24, 2010

ศาลฟิลิปปินส์สั่งจำคุกพ่อข่มขืนลูกสาว 14,400 ปี


ศาลอุทธรณ์ในกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ตัดสินลงโทษบิดาของเด็กหญิงวัยรุ่นรายหนึ่ง จำคุกเป็นเวลา 14,400 ปี ฐานข่มขืนลูกสาวตนเองเกือบทุกคืนเป็นเวลากว่า 1 ปี ชายคนดังกล่าวซึ่งมีอาชีพขับรถสามล้อ ล่วงละเมิดทางเพศลูกสาวอายุ 13 ปีขณะเกิดเหตุ ทั้งนี้นายมาริโอ้ กัวรีนา ผู้พิพากษา ระบุในคำพิพากษาที่มีการตัดสินเมื่อต้นสัปดาห์นี้ ว่าเป็นคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เยาว์เลวร้ายที่สุดที่ศาลแห่งนี้เคย พิจารณามา
ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้นที่มีคำพิพากษาเมื่อเดือนมีนาคม 2549 ให้พ่อรายนี้มีความผิดในข้อหาข่มขืน 360 กระทง และลงโทษจำคุกกระทงละ 40 ปี เดิมจำเลยถูกตัดสินประหารชีวิตด้วยการฉีดยาพิษ แต่จำเลยได้ยื่นอุทธรณ์ และฟิลิปปินส์ได้ยกเลิกโทษประหาร 3 เดือนหลังจากนั้น
ระหว่างการพิจารณาคดี ศาลได้รับฟังว่าพ่อรายนี้ซึ่งมีลูกชายลูกสาว 3 คน เริ่มข่มขืนลูกสาวที่บ้านหลังภรรยาไปทำงานในฮ่องกงเมื่อเดือนมกราคม 2544 จากนั้นก็ข่มขืนลูกสาวทุกคืนเรื่อยมารวม 386 วัน เด็กหญิงบอกเรื่องนี้กับญาติที่ไปเยี่ยมที่บ้านเมื่อปี 2545 มารดาจึงเดินทางกลับจากฮ่องกงและเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสามีในตอนแรก ฝ่ายพ่ออ้างว่าลูกสาวกุเรื่อง แต่ศาลไม่รับฟัง มีรายงานว่าจำเลยยังสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงได้อีก แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเขาจะสู้คดีต่อหรือไม่


สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวแห่งอินเดียจัดโปรแกรมนำนักท่องเที่ยวจ.อันดามัน




ายราจินเดอร์ ไรย์ นายกสมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวแห่งอินเดีย ( Travel Association of India:TAAI ) เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว" ในระหว่างวันที่ 24-26 กันยายนนี้ สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวแห่งอินเดียวได้จัดประชุมใหญ่ ประชุมปี 2010 ขึ้นที่โรงแรมลากูน่าภูเก็ต รีสอร์ท โดยมีสมาชิกของสมาคมฯ เข้าร่วมประมาณ 1,000 คน ซึ่งเหตุที่มาเลือกจัดประชุมที่ จ.ภูเก็ต เนื่องจากต้องการให้สมาชิก ได้เห็นถึงจุดเด่นและความสวยงามของแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต ซึ่งบางคนเคยได้ยินเฉพาะชื่อเสียงแต่ยังไม่เคยเดินทางเข้ามาสัมผัสด้วยตัว เอง จึงเป็นโอกาสดีที่สมาชิกของสมาคมฯ จะได้สัมผัสกับพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวจริง และจะได้นำไปถ่ายทอดและโปรโมทให้กับกลุ่มลูกค้าชาวอินเดียได้รับทราบต่อไป
ด้านนายพงศธร เกษสำลี ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียนเอเชียใต้และแปซิฟิกใต้ กล่าวว่า การที่สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวแห่งอินเดียเลือกภูเก็ตเป็นสถานที่จัด ประชุม ถือเป็นโอกาสที่ดีในการส่งเสริมภาพลักษณ์แหล่งท่องเที่ยวที่มีความสวยงาม คุ้มค่ากับการเดินทาง และเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับ กลุ่มประชุมสัมมนาและกลุ่มคู่แต่งงานของชาวอินเดีย
“ สมาชิกของสมาคม TAAI ประกอบด้วย บริษัทนำเที่ยวทั่วประเทศอินเดียจำนวนกว่า 2,000 ราย ซึ่งมีศักยภาพในการแนะนำแหล่งท่องเที่ยวต่างประเทศคู่สมาชิก และในการจัดประชุมใหญ่ประจำปีจะมีการเดินทางออกไปจัดการประชุมกันนอกประเทศ ทุกปี เป็นการสร้างรายได้โดยตรงและโอกาสทางการตลาดในระยะยาวให้กับประเทศที่ได้รับ เลือกเป็นสถานที่จัดการประชุม ซึ่งหลังจากกลับไปแล้วก็จะได้มีการเผยแพร่สินค้าบริการทางการท่องเที่ยวให้ แพร่หลายในกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดีย ”
ขณะที่ นายฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานนิวเดลี ประเทศอินเดีย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า การที่สมาคม TAAI เลือกจัดประชุมที่จังหวัดภูเก็ตถือเป็นเรื่องที่ดีทั้งในระยะสั้น เกิดขึ้นทันที คือ รายได้ที่เกิดขึ้นจากสมาชิกฯ ที่เข้ามาร่วมประชุม เพราะนอกจากสมาชิกฯ แล้วยังมีผู้ติดตามด้วย และในระยะยาว คือ ภาพลักษณ์ที่ทางผู้เข้าร่วมประชุมซึ่งเป็นบริษัทนำเที่ยวจะนำกลับไปเสนอขาย ให้กับนักท่องเที่ยวอินเดีย จะทำให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ตเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอน


คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย ประกาศยกย่อง "ไตรภูมิพระร่วง"


ศ.รื่นฤทัย สัจจพันธุ์ กรรมการวรรณคดีแห่งชาติ แถลงผลการดำเนินงานของคณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย และคณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ ว่า ขณะนี้คณะกรรมการวรรณคดีแห่งชาติ มีมติพิจารณาคัดสรรวรรณกรรมที่แต่งในสมัยสุโขทัย ที่มีคุณค่าทางด้านเนื้อหา และมีความงดงามในเชิงวรรณศิลป์ ให้เป็นวรรณคดีของชาติ สมัยสุโขทัย 5 เรื่อง ดังนี้ 1.จารึกหลักที่ 1 ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง 2.จารึกหลักที่ 2 ศิลาจารึกวัดศรีชุม 3.จารึกหลักที่ 3 ศิลาจารึกนครชุม 4.สุภาษิตพระร่วง และ5.ไตรภูมิกถา นอกจากนี้ยังมีมติประกาศยกย่องวรรณคดี เรื่อง ไตรภูมิกถา หรือ ไตรภูมิพระร่วง ให้เป็นยอดของวรรณคดีสมัยสุโขทัย เนื่องจาก เป็นวรรณคดีเก่าแก่ โดยพระมหาธรรมราชาที่ 1 หรือ พระยาลิไท พระมหากษัตริย์องค์ที่ 7 แห่งกรุงสุโขทัย ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 1888 หรือมีอายุ กว่า 600 ปี โดยวรรณคดีเรื่องนี้ มีเนื้อหามุ่งสอนศีลธรรม ให้ประชาชนยึดมั่นในคุณงามความดี เชื่อในเรื่องบาปกรรม และนรก สวรรค์ ซึ่งเป็นความเชื่อหยั่งรากลึกในสังคมไทยเป็นเวลานาน
การที่คณะกรรมการได้ประกาศยกย่องวรรณคดี เรื่อง ไตรภูมิกถา ให้เป็นยอดวรรณคดี เพราะเห็นว่า เป็นหนังสือแต่งดี มีคุณค่าที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังทางปัญญาของการสร้างสรรค์ มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้ง ในเชิงวรรณคดีไทย ที่มีคุณค่าพร้อมทั้งด้านศาสนา ด้านสังคม ด้านศิลปกรรม โดยสอนเรื่องพุทธศาสนาเรื่องแรกที่คงเหลือหลักฐานมาจนถึงปัจจุบัน มีคำประพันธ์ประเภทความเรียงร้อยแก้ว สะท้อนวรรณคดีไทยในระยะแรกเริ่ม สำนวนภาษาที่ปรากฏมีศัพท์ทางศาสนา และศัพท์ภาษาโบราณอยู่มาก ซึ่งสามารถนำมาเป็นตัวอย่างเพื่อการศึกษา ในการใช้ภาษาในสมัยกรุงสุโขทัยได้ นอกจากนี้ยังมีความสำคัญในเชิงวรรณศิลป์ เนื่องจากหนังสือที่ให้ความรู้ทางด้านอักษรศาสตร์ จารีตประเพณี และถือว่ามีความโดดเด่นในด้านการใช้ภาพพจน์อุปมา ซึ่งทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจ ให้อารมณ์ และเห็นภาพชัดเจน
ศ.ประเสริฐ ณ นคร ประธานกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทย กล่าวว่า ปัจจุบันเด็กไทยไม่ค่อยได้เรียนรู้ ในเรื่องวรรณคดี ดูจาก ดนตรี หรือ เพลงในสมัยนี้ ที่ไม่มีคำคล้องจอง และสัมผัส ทำนองเลย หรือ พูดได้ว่าคำคล้องจอง ได้หมดไปแล้ว ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากการที่เราไม่ได้ฝึกฝนให้เด็กเรียนรู้เพลงที่มี เนื้อหาสัมผัส ตั้งแต่เล็กๆ เมื่อโตขึ้นมา ก็ถูกผู้ผลิตทางสื่อวิทยุโทรทัศน์ พยามยามยัดเยียดครอบงำ ให้เด็กเสพสื่อโดยการโฆษณา จนทำให้ได้ยินจนชินหู และเกิดความชอบ และนิยมเพลงที่ไม่มีเนื้อเพลง และทำนองสัมผัสกัน ดังนั้นเป็นเรื่องที่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน


จีน-ญี่ปุ่นร้าวฉานหนัก 4 ชายชาวญี่ปุ่นเติมเชื้อไฟ ถ่ายภาพความลับทางทหารจีน


จีนกำลังอยู่ระหว่างการสอบปากคำชาวญี่ปุ่น 4 คน ด้วยข้ออ้างที่ว่า คนเหล่านี้เข้าไปถ่ายภาพสิ่งปลูกสร้างทางทหารที่อ่อนไหว และนับเป็นประเด็นล่าสุดที่ยิ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสองประเทศ รุนแรงมากยิ่งขึ้น และมีขึ้นในช่วงที่นางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เรียกร้องให้มีการเจรจากันเรื่องที่ญี่ปุ่นจับกุมกัปตันเรือประมงของจีน หลังเกิดเหตุเรือชนกันที่บริเวณหมู่เกาะที่จีนและญี่ปุ่น ต่างอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของในทะเลจีนตะวันออก เมื่อช่วงต้นเดือน ซึ่งส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองเพื่อนบ้านกลายเป็นความบาดหมาง
นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่า ของจีน ได้ขู่ว่าจะตอบโต้การกระทำที่ไม่สมควรของญี่ปุ่น และได้เพิ่มแรงกดดันต่อญี่ปุ่นมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้านสำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานข่าวสั้น ๆ เมื่อวันพฤหัสบดีว่า กำลังสอบปากคำชาวญี่ปุ่น 4 คน ที่ล่วงล้ำเข้าไปในเขตทหารโดยไม่ได้รับอนุญาตและยังบันทึกวีดีโอเทปเป้าหมาย ทางทหารอย่างผิดกฎหมาย ที่มณฑลเหอเป่ยอีกด้วย
ด้านสำนักข่าวเกียวโดยของญี่ปุ่น รายงานวันนี้ว่า สถานทูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่ง ได้ยืนยันเรื่องชาวญี่ปุ่น 4 คน ถูกสอบปากคำ ส่วนซินหัวระบุว่า เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงของจีน ได้ดำเนินการทางกฎหมายต่อชาวญี่ปุ่น 4 คน หลังจากได้รับรายงานเรื่องการกระทำที่ผิดกฎหมายของพวกเขา แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดนอกเหนือจากนี้ ยกเว้นเพียงแต่บอกชื่อคนที่ถูกสอบสวนคนหนึ่งว่า ซาดะ ทาคาฮาชิ ส่วนสำนักข่าว จิจิ เพรสส์ ของญี่ปุ่น ระบุว่า บริษัทคู่สัญญาที่มีชื่อว่าฟูจิตะ คอร์ป(Fujita Corp.) ได้แจ้งว่า ทั้ง 4 คน เป็นพนักงานของบริษัท และขาดการติดต่อกับทางบริษัทไปตั้งแต่วันพุธ
สำนักข่าวเกียวโด รายงานว่า ทั้ง 4 คน อยู่ระหว่างการเตรียมการขนย้ายอาวุธเคมีที่กองทัพญี่ปุ่นทิ้งไว้ตั้งแต่สมัย สงครามโลกครั้งที่ 2 ออกไป แต่สถานการณ์ล่าสุด อาจทำให้ความขัดแย้งระหว่างจีนกับญี่ปุ่นยิ่งรุนแรงขึ้น


โอบาม่านำสหรัฐและชาติตะวันตกวอล์คเอาท์หลังผู้นำอิหร่านกล่าวหาจัดฉาก11กย.


ประธานาธิบดีบารัค โอบาม่าของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดีเนจ๊าดของอิหร่าน ต่างกล่าวหาซึ่งกันและกันในการประชุมสุดยอดประจำปีของบรรดาผู้นำโลก ที่สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติที่นครนิวยอร์ค เมื่อวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น เรื่องโครงการนิวเคลียร์ของแต่ละประเทศ แต่ต่างยังเปิดช่องที่จะมีการเจรจาต่อรองกันต่อไปเรื่องปัญหาโครงการ นิวเคลียร์อิหร่าน
ผู้นำอิหร่านได้สุนทรพจน์กล่าวหาด้วยว่า มีบางหน่วยงานในรัฐบาลสหรัฐที่ได้ก่อเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน ปี 2534 ในสหรัฐฯเอง ทำให้คณะผู้แทนของสหรัฐวอล์คเอาท์ออกจากที่ประชุมเพื่อประท้วง รวมทั้งคณะผู้แทนจากสมาชิกทั้ง 27 ชาติของสหภาพยุโรป และผู้แทนของออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ แคนาดา และคอสตาริก้า
สำหรับเรื่องนิวเคลียร์นั้น ผู้นำอิหร่านได้กล่าวพาดพิงสั้นๆถึงการที่อิหร่านถูกสหประชาชาติใช้มาตรการ คว่ำบาตรเพราะโครงการนิวเคลียร์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สนธิสัญญาห้ามแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ หรือ NPT อนุญาตให้ทุกชาติที่ร่วมลงนามใช้พลังงานนิวเลียร์ในทางสันติได้
เขากล่าวว่า มีบางชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงที่มีระเบิดนิวเคลียร์ รวมทั้งยังคงมีไว้ ขยายและอัพเกรดคลังแสงนิวเคลียร์ พร้อมระบุว่าสหรัฐฯได้ใช้เงิน 80,000 ล้านดอลลาร์ สร้างคลังแสงนิวเคลียร์ของตน แต่ก็ปิดท้ายว่า อิหร่านพร้อมเจรจากับสหรัฐฯ อียุและตัวแทนประชาคมนานาชาติอื่นๆ บนพื้นฐานของความยุติธรรมและการให้ความเคารพกัน
ด้านประธานาธิบดีโอบาม่าผู้ได้กล่าวสุนทรพจน์ในช่วงเช้าและออกจากที่ประชุม โดยไม่อยู่ฟังสุนทรพจน์ของผู้นำอิหร่านในช่วงบ่าย ได้กล่าวตอบโต้ว่า อิหร่านเป็นชาติเดียวใน NPTที่ไม่อาจแสดงให้เห็นว่าโครงการของตนมีเป้าหมายในทางสันติ แต่ก็บอกว่าประตูทางการฑูตก็ยังเปิดอยู่ หากอิหร่านเลือกที่จะเดินผ่าน


Thursday, September 23, 2010

3G แท้ง ศาลปกครองสูงสุดสั่งระงับ (แต่แอนนี่ท้อง และ iphone 4 คลอด ในวันเดียวกัน)


เมื่อเวลา 9.00น.ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำสั่งที่ห้องพิจารณาคดี1 ชั้น3 โดยองค์คณะที่5 กรณีการประมูล3G โดยศาลพิเคราะห์ใน 3 ประเด็นคือ เรื่องอำนาจ กทช.ในการดำเนินการ ศาลวินิจฉัยโดยพิจารณาจาก พรบ.คลื่นฯ 2543 เห็นว่า น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยจะส่งศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาในกรณีนี้ต่อไป ประเด็นที่สอง ขณะนี้คณะกรรมการร่วมแผนแม่บท ยังไม่มีตัวตน และประเด็นสุดท้าย หากปล่อยให้มีการประมูลจะเกิดผลเสียหายมากกว่า จึงจำเป็นต้องรอ กสทช. ศาลฯระบุ การไม่มี 3จี ไม่เป็นปัญหาต่อการบริการสาธารณะ ซึ่งการให้บริการจะต้องตั้งอยู่ในความชอบของกฏหมายด้วย
ศาลปกครองสูงสุด จึงมีคำสั่งยืนตามศาลปกครองกลาง ให้ระงับการประมูลใบอนุญาต 3G ไว้ก่อน จนกว่าคดีจะสิ้นสุด
ขณะที่ ดร.นที ประธานกรรมการ กทช.ได้ออกจากศาลไปทันทีที่ฟังคำสั่งศาลเสร็จสิ้น โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ และจะมีการแถลงที่กทช.ในเวลา14.00น.วันนี้


เกิดปรากฏการณ์ปลาดุกชุกโผล่แน่นริมโขงนครพนม


เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นที่บริเวณท่าน้ำริมฝั่งแม่น้ำโขงหลังสวนเทิด พระเกียรติเทศบาล เมืองนครพนม เมื่อปลาดุกจำนวนมากแหวกว่ายอยู่บริเวณท่าน้ำ จนทำให้ชาวบ้านสามารถจับปลาดุกได้โดยง่าย
นางพิศสมัย ด้วงสงค์ ชาวบ้านที่มาร่วมจับปลาครั้งนี้ กล่าวว่า ได้มีชาวบ้านมาขุดหาใส้เดือนริมตลิ่งโขงไปเป็นเหยื่อใส่เบ็ดตกปลา ต่อมาพบว่ามีปลาดุกจำนวนมากจึงกลับบ้าน นำแห่มาจับปลาดุกแต่จับเท่าไหร่ก็จับไม่หมด สามารถนำรถสามล้อขนกลับไปขายหลายครั้ง สร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน

น้ำตาลูกผู้ชาย ฟิล์มร่ำไห้แถลงรอบ2อยากตรวจDNA


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้เวลาประมาณ 14.00 น. นักร้องชื่อดัง ฟิล์ม รัฐภูมิ ได้แถลงข่าวรอบ2 ที่ บริษัทRS โดยมีทัพสื่อแห่ไปทำข่าวแน่น และเวลา 14.18 น. ฟิล์มก็ออกมาแถลงข่าวว่า "สวัสดีพี่สื่อมวลชนที่มาครั้งนี้และให้โอกาสได้ออกมาพูด จริงๆไม่อยากพูด ผมทนรับแรงกดดันจากสังคมไม่ไหวตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา คนรอบข้างของฟิล์มได้รับผลกระทบ เป็นเหตุให้ทนไม่ไหวจึงต้องขอออกมาพูด ฟิล์มขอโทษทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง ทำให้ความฝันตัวเองที่อยากเป็นดาราต้องมลายไปเพราะสิ่งที่ตัวเองทำขึ้น
ขอโทษแอนนี่ด้วยที่ทำให้เสียใจ พร้อมยอมรับกับสิ่งที่ทำผิดพลาดทั้งหมด จะแก้ไขให้ดี ยอมทุกอย่าง จะตรวจหรืออะไรก็ได้ เพื่อให้เรื่องนี้ดีขึ้น และอยากจะขอโอกาสจากสื่อ แฟนคลับ เฮียฮ้อ พี่พจน์ อานนท์ ขอโอกาสเรื่องงาน และจะไปขอโอกาสจากเฮียในการกลับไปทำสิ่งที่ตัวเองรักเพราะต้องเลี้ยงดูครอบ ครัว เป็นเสาหลัก และขอสัญญาว่าจะไม่ทำให้ใครผิดหวังอีก และขอบคุณที่ให้ความรักกัน อยากให้เป็นครั้งสุดท้ายและจบลงด้วยดี
ส่วนตอนนี้ก็ยังไม่ได้ติดต่อกับแอนนี่ พ่อแม่ผมก็อยากอุ้มหลาน แต่ก็อยากให้ตรวจ DNA แต่ก็จะไปบังคับใครไม่ได้ แต่ก็จะทำให้ดีที่สุด ซึ่งที่ผ่านมาครอบครัวฟิล์มรับรู้เรื่องเด็ก ดูแลมาตลอด ซึ่งเรื่องนี้เด็กไม่รู้เรื่องอะไร แต่ต้องมารับสภาพแบบนี้ ผมยอมรับจะช่วยเหลือ และช่วยเหลือตลอดไป เรื่องทั้งหมดเกิดจากคนสองคน อยากคุยกันครั้งสุดท้ายให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ไม่อยากให้ใครได้รับผลกระทบอีก เป็นห่วงที่สุดคือเด็ก
ที่ผ่านมาพอบอกแอนนี่ว่าพร้อมจะตรวจ เขาก็ถามกลับว่าไม่เชื่อใจเขาเหรอ ส่วนเขาจะตรวจไม่ตรวจก็บังคับเขาไม่ได้ เคยถามแอนนี่ใช่ลูกเขาเหรอ แต่แอนนี่เอาแต่ร้องไห้ ผมก็เห็นใจคุณลำบาก แต่อย่าทำร้ายเด็ก เด็กที่ไม่รู้เรื่อง ผมสงสารเด็ก ผมรักเด็กคนนี้มาก ผมช่วยเหลือตลอด และจะช่วยต่อไป ซึ่งไม่รู้บทสรุปจะเป็นยังไง แต่จะทำให้ดีที่สุด
ส่วนเรื่องแม่ ฟิล์มแถลงว่า "สภาพจิตใจแม่แย่มาก ตอนนี้แม่ยังไม่ออกจากร.พ. ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไร ผมก็ดูแลแม่ ปลอบใจแม่ไม่เป็นอะไรนะ ผมร้องแทบไม่มีน้ำตาแล้ว ผมไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อแฟนๆด้วย หลังจากวันนี้ไป จะโทรไปหาแอนนี่ แต่จะได้คุยจะรับสายหรือเปล่ายังไม่รู้ แต่ที่ผ่านมาแม่ฟิล์มเป็นคนโทรติดต่อ"
ฟิล์มแถลงอีกว่า "ที่ฟิล์มต้องออกมาพูดเพราะไม่ไหวแล้ว ที่ทุกคนรอบตัวต้องมีผลกระทบจากสิ่งที่ตัวเองทำ แต่ไม่โกรธคนที่ทำให้แม่ต้องเข้าโรงพยาบาล ตอนนี้อยากขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ พร้อมขอโอกาสจากสังคมอีกสักครั้ง ทั้งที่ตอนนี้แทบจะไม่มีสิทธิ์ขออะไรเลยด้วยซ้ำ"
ส่วนเรื่องคุณระเบียบรัตน์ "ก็ไม่มีข้อคิดเห็นเรื่องนี้ เพราะอยู่นอกเหนือประเด็น ส่วนเรื่องเสี่ยอู๊ด ผมไม่รู้ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไง ความจริงจะปกป้องผม ให้ความจริงปรากฎเอง ซึ่งช่วงที่หายไปผมก็อยู่กับครอบครัวตลอด และพยายามปฎิบัติธรรม แต่ก็อยู่ด้วยความเศร้า ความรู้สึกตอนนี้เหมือนตายทั้งเป็น ทั้งๆ ที่มีแม่ปลอบใจอยู่ก็เหมือนตายทั้งเป็นแต่ก็ยืนยันไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย"
สำหรับการตรวจ DNA "ถ้าตรวจแล้วเป็นลูกจริง ผมก็ดีใจ และผมก็ไม่เคยทอดทิ้งตั้งแต่รู้วันแรก จะทำให้ดีที่สุด ฟิล์มจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาไม่ยอมตรวจ แต่ยังไงก็จะให้ความช่วยเหลือ ยอมรับว่าก็ติดใจว่าใครเป็นพ่อ"
ฟิล์ม กล่าวในช่วงท้ายว่า "ตอนนี้ไม่ใช่เรื่องของคน2คนแล้ว มีทั้งครอบครัวฟิล์ม ครอบครัวเขา และก็ประชาชนด้วย ซึ่งการพูดคุยกับแอนนี่ ต้องมีพ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายมาพูดคุยด้วยกันจะดีที่สุด อยากให้เรื่องจบโดยเร็ว" ตอนนี้ก็มีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น และอยากจะบวช ซึ่งมีแพลนจะบวชเมื่อเดือน 6 ที่ผ่านมาแต่ก็เลื่อนตลอด

Tuesday, September 21, 2010

"พจน์ อานนท์" ยันแฉเรื่องจริง ปัดเกาะข่าวฟิล์มดัง ย่ำเลิกคิดแต่ว่าชายเป็นฝ่ายผิด






นายพจน์ อานนท์ แมวมองและผู้กำกับชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ในรายการ เช้าดูวู้ดดี้ เกี่ยวกับกรณีที่ออกมาแฉก่อนหน้านี้เรื่องการทำหมันและการป้องกันของแอนนี่ กับฟิล์ม โดยยืนยันว่า เรื่องที่พูดไปเป็นเรื่องจริง และไม่ได้เกาะกระแสฟิล์มดัง เพราะตนเองดังมาก่อนฟิล์มและแอนนี่เสียอีก "เบื่อแล้วความดัง แต่ออกมาพูดความจริง ผมเป็นคนตรง"
นอกจากนี้ยังฝากบอกสังคมว่า ให้เลิกคิดได้แล้วว่าผู้ชายเป็นฝ่ายผิด เพราะมันผิดด้วยกันทั้งคู่ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง
นายพจ อานนท์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ฟิล์มตกงาน ถูกระงับงานทั้งหมด ถ้าเป็นลูกฟิล์มจริง ต่อไปจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงลูก พร้อมแนะสังคมให้เป็นกลางจะดีที่สุด เพราะตอนที่เค้ามีอะไรกันสังคมก็ไม่ได้ไปรับรู้ แต่พอเค้ามีเรื่องกัน สังคมก็มาบอกให้คนนั้นต้องทำอย่างนั้น คนนี้ทำอย่างนี้
"มันจะลงเอยอะไรก็ต้องเป็นเรื่องของคน 2 คน ต้องตรวจ DNA ถ้าใช่ฟิล์มก็รับผิดชอบในสิ่งที่ทำไป แต่ถ้าไม่ใช่ แอนนี่ก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ และตอนนี้ยังไม่รู้ว่าใช่ลูกหรือเปล่า แต่ฟิล์มตายทั้งเป็นไปแล้ว" นายพจ กล่าว
นายพจ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ของผู้ชาย ว่าถ้าผู้หญิงมาบอกว่าป้องกันแล้ว อย่าไปเชื่อ เราต้องป้องกันตัวเองด้วย พร้อมเตือนผู้หญิงทุกคน อย่าเชื่อถ้าหากผู้ชายบอกรักแล้วไม่ใส่ถุงยาง เพราะเรื่องsexเข้าใจว่าห้ามกันไม่ได้อยู่แล้ว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : "ระเบียบรัตน์" ให้สัมภาษณ์เรื่องเล่าเช้านี้ จวก พจน์ อานนท์ เลวมาก ซัดฟิล์มให้ตรวจDNA เหมือนตบหน้าผู้หญิง ย้ำฟิลม์พ่อเด็กชัวร์


"ระเบียบรัตน์" ให้สัมภาษณ์เรื่องเล่าเช้านี้ จวก พจน์ อานนท์ เลวมาก ซัดฟิล์มให้ตรวจDNA เหมือนตบหน้าผู้หญิง



นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช ให้สัมภาษณ์ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เกี่ยวกับกรณีฟิล์มและแอนนี่ ว่า ขอชื่นชมเฮียฮ้อ ที่เป็นคนดี มีศีลธรรม และเข้าใจลูกน้อง ทำให้กิจการเจริญรุ่งเรือง แต่ของตำหนิคนที่ออกมาพูดเรื่องใส่ไม่ใส่ถุงยาง ไม่ควรพูดถึงบุคคลที่3แบบนี้ แต่มีประโยชน์สำหรับลูกผู้หญิง ว่า การไม่รักนวลสงวนตัว จะทำให้เกิดปัญหา
ไม่จบง่ายๆ กรณีฟิล์ม รัฐภูมิ และ แอนนี่ บรู๊ค โดยล่าสุด นางระเบียบรัตน์ พงษ์พานิช นายกสมาคมเสริมสร้างความครัวให้อบอุ่นและเป็นสุข ออก มาให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ว่า ก่อนจะพูดเรื่องอะไรก็ต้องชมเฮียฮ้อที่ออกมาพูดด้วยความสุขุม และมีเหตุผลเหมาะจะเป็นหัวหน้าคนมากๆ และกล่าวว่าทั้งหมดเป็นเรื่องของคน 2 คน ดังนั้นคนที่เป็นมือที่ 3 -4 ออกมาให้สัมภาษณ์ไม่ควรต่อแย แม้ว่าก่อนหน้านี้คนๆ นั้นจะเป็นผู้จัดการหรือว่าเป็นผู้สร้างฟิล์มก็ตามคุณไม่สิทธิ์ไปบอกว่า ผู้ชายเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงบอกให้คุณไม่ต้องใส่ถุงยางหรือไม่ใส่ พูดแบบนี้แทนที่ฟิล์มจะดีขึ้นกลับเลวลงยิ่งกว่าเดิม
"ในรายการทีวีเห็นใครสักคนออกมาให้สัมภาษณ์เรื่องนี้บอกว่า ฟิล์มเล่าว่าแอนนี่บอกว่าไม่ต้องใส่ถุงให้แตกในได้เลย โอ้โห คนที่พูดแบบ เลวมาก เอาเรื่องคนอื่นมาพูดจริงไม่จริงไม่รู้ ปัจจุบันพฤติกรรมผู้ชายในสังคมไทยได้เปรียบผู้หญิงอยู่แล้ว ทั้งหมดเป็นเรื่องของ 2 คน ผิด-ถูกเรื่องของเขา คนอื่นไม่เกี่ยว"
"เรื่องฟิล์มกับแอนนี่ที่แดงออกมา วันนี้ถือเป็นเป็นบทเรียนล้ำค่า โดยเฉพาะผู้หญิงที่จะต้องเจ็บปวดหนักหนาสาหัสตรงที่ผู้ชายบอกว่าให้ไปตรวจ "ดีเอ็นเอ" และถ้าดีเอ็นเอเป็นลูกของเขาจริงก็จะรับ ซึ่งฟิล์มพูดแบบนี้เหมือนเป็นการตบหน้าผู้หญิงอย่างแรงมาก แม้ ว่าเขาจะมีชื่อเสียง การมีชื่อเสียงของเขาทำให้ผู้หญิงรุมล้อม อยากหลับนอนด้วยแต่จะด้วยอะไรก็แล้วแต่ เมื่อพลาดพลั้งขึ้นมาสิ่งที่ดีที่สุดก็คือการนิ่ง และควรจะคุยเป็นเรื่องส่วนตัว เชื่อว่าก่อนหน้าที่แอนนี่จะมาเป็นข่าวออกรายการทางช่อง 3 ทั้ง 2 ฝ่ายน่าจะพูดจากันแล้ว แต่ผู้ชายไม่รับผิดชอบ"
"จากที่ดูมาผู้หญิงก็มีแม่อยู่ต่าง จังหวัดต้องดูแลตัวเอง แล้วก็เกิด "ฟรีเลิฟ" ซึ่งเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง แต่เมื่อมันเกิดกรณีนี้ขึ้นมาแล้วเราจะทำอย่างไรให้มันดีที่สุด เมื่อเกิดพลาดขึ้นมาแล้ว มีเด็กออกมาจะด้วยตั้งใจหรือไม่ แต่แม่เขาก็ลุกขึ้นมาปกป้องลูก แต่คนเป็นพ่อกลับไม่รับผิดชอบ ลูกผู้ชายมันต้องมีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ทำแบบนี้หน้าตัวเมียพี่แดงเกลียดมากวันนี้เรามีผู้ชายเลวๆเยอะ"
นางระเบียบรัตน์ ยังฝากข้อความไปถึง "ฟิล์ม" ว่า อยากให้ฟิล์มไปขอโทษผู้หญิง แล้วก็ต้องมีความรับผิดชอบเพราะลูกเขาเกิดมาแล้ว เขาบริสุทธิ์ อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าเขามีพ่อที่จะต้องรับผิดชอบ ฟิล์มอาจจะไม่ใช้ชีวิตคู่กับแอนนี่ก็สุดแล้วแต่ แต่ฟิล์มต้องมีความเป็นลูกผู้ชาย ถ้าฟิล์มพูดว่าไม่แน่ใจว่าลูกคนนี้เป็นลูกฟิล์มหรือเปล่า ต้องไปตรวจดีเอ็นเอถึงจะต้องยอมรับ พี่แดงคิดว่าฟิล์มอาจจะพูดถึงในขั้นหลักการ แต่ฟิล์มดูถูกผู้หญิงมากเกินไปแล้ว ถ้าพี่เป็นผู้หญิงพี่จะไม่รับผู้ชายคนนี้เป็นสามีเด็ดขาด แม้ว่าคุณจะทำมาหากินได้ รูปหล่อหน้าตาดีมีชื่อเสียงแต่คุณไม่มีจิตสำนึกที่จะรับผิดชอบ ถ้าเป็นพี่แดงผู้ชายคนนี้ไม่มีสิทธิเป็นสามีพี่หรือใครๆ เพราะว่าเขาดูถูกผู้หญิง
"ส่วนสิ่งที่อยากฝากไปยังแอนนี่ ก็คือนี่คือบทเรียนที่ล้ำค่า อย่างไรเสียเป็นผู้หญิงต้องดูว่าผู้ชายเขาอยากจะมีเพศสัมพันธ์กับเรา ทั้งหมดไม่ใช่เกิดจากความรัก ยิ่งเขาโดดเด่นมีชื่อเสียงเขาทำลายผู้หญิงเป็นผักเป็นปลาได้ง่ายมาก มันจึงมีข่าวเรื่อยว่านักร้องวงดังคนนั้นคนนี้ไปทำคนท้องเพราะฉะนั้น เมื่อพลาดเอาคืนไม่ได้ ก็ต้องเป็นแม่ที่ดีที่สุด บทเรียนครั้งนี้ก็เป็นบทเรียนให้กับวัยรุ่นผู้หญิง ได้ตระหนักถ้าเราง่ายแล้วเราก็ถูกทิ้งง่ายแล้วเราก็ไม่มีคุณค่า แล้วยังมาดูถูกเราอีกว่าลูกเขาเปล่าไปนอนกับใครมาหรือเปล่า ดีเอ็นเอ ถ้าเป็นพี่แดงแม้เงินบาทเดียวพี่ก็ยังไม่เอาจากมัน ผู้ชายคนนี้"
นางระเบียบรัตน์ ยังชื่นชมแอนนี่ ที่มีจิตวัญญาณของความเป็นแม่ ไม่ยอมทำลายลูก และกล้าหาญที่จะไม่ตรวจDNA และขอเลี้ยงลูกเอง
"การที่ฟิล์มบอกการให้ตรวจDNA เป็นการตบหน้าผู้หญิงอย่างแรง ฟิล์มต้องออกมาขอโทษแอนนี่ ขอโทษพ่อแม่แอนนี่ และขอโทษสังคม แอนนี่ไม่จำเป็นต้องตรวจDNA และไม่ควรรับเงิน ขอยืนยันว่าพ่อเด็กชื่อฟิล์มแน่นอน" นางระเบียบรัตน์ กล่าว


อภิสิทธิ์ขอดูคำสั่งศาลปค.ก่อนตัดสินใจอัพเกรด 2G



              นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ให้สัมภาษณ์กรณี 3G ว่า วันนี้ขอให้คณะกรรมการประสานงานเลื่อนกฎหมายขึ้นมาอยู่ในอันดับแรก แต่อาจจะต้องไปพิจารณาในสัปดาห์หน้า ส่วนประเด็นอื่นก็เป็นเรื่องที่ต้องติดตามการวินัจฉัยของศาล สำหรับกรณีที่นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง จะอัพเกรดระบบ 2G นั้นก็เป็นทางเลือกหนึ่ง แต่คิดว่าน่าจะต้องรอคำวินิจฉัยของศาลก่อน
          เมื่อถามว่าจะขยายสัมปทานเพื่อให้ทำได้หรือไม่ กล่าวว่า ทำไม่ได้ จะทำได้ในลักษณะที่แปลงสัมปทานมาตามกฎหมายอายุจะได้เท่ากับสัมปทานที่เหลือ เป็นการแปลงรูปแบบเท่านั้นเอง เมื่อถามว่านี่คือรูปแบบเดิมที่นายกรณ์เคยเสนอมาก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่  กล่าวว่า ก็ไม่เชิงเพราะเดิมมีการพูดถึงว่าจะต้องไปคุยกับทางคณะกรรมการกิจการโทร คมนาคมแห่งชาติ (กทช.)ในเรื่องของใบอนุญาต และตอนนั้นก็อาจจะแยกกันระหว่าง 2G กับ 3G แต่ว่าอันนี้อาจจะเป็นความพยายามที่ดูช่องทางในการแก้ปัญหาในเรื่อง 3G เป็นการเฉพาะ “ยังไม่ตกผลึกทีเดียว เพราะต้องดูข้อกฎหมายต่างๆด้วย และบางสัญญาเหลือ 3 ปีก็ไม่แน่ใจว่าทำแล้วมันจะเกิดผลได้มากน้อยแค่ไหน ดีที่สุดคือตอนนี้รอคำวินิจฉัยในเรื่องของการคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อน”
              เมื่อถามว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้พนักงานของบริษัท ทีโอที จำกัด(TOT) ออกมาขับไล่นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.ICTแล้ว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายจุติต้องไปทำความเข้าใจ วันนี้ตนก็บอกแล้วว่าเรื่องทำนองนี้จะมีมากขึ้น เหตุผลก็เพราะว่ารัฐวิสาหกิจเกิดขึ้นมาในสภาพของโครงสร้างเศรษฐกิจแบบหนึ่ง มาถึงยุคนี้ก็เปลี่ยนแปลงไปเยอะ หลายประเทศก็จะถอยออกมาจากหลายกิจการซึ่งเคยทำ หลายประเทศก็มากกว่าเราด้วย ดังนั้นมันก็ยังมีเรื่องที่เราอยู่ในภาวะช่วงเปลี่ยนผ่านอยู่ ในแง่ของการปรับบทบาทต่างๆ จึงต้องเข้าใจว่าคนในองค์กรเขาก็ต้องรักษาผลประโยชน์ขององค์กร แต่ว่ารัฐบาลก็ต้องดูภาพรวมด้วย เพราะบางทีผลประโยชน์ของตัวรัฐวิสาหกิจ หรือรายได้ของรัฐกับในแง่ของประโยชน์ส่วนรวมมันก็มีปัจจัยอื่นเข้ามาเกี่ยว ข้อง ดังนั้นทั้งรัฐมนตรีและรัฐบาลก็ต้องบริหารให้เกิดความสมดุลให้ได้ เมื่อถามว่า 2 องค์กรรัฐวิสาหกิจต้องปรับตัวหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องปรับตัว ซึ่งทั้ง 2 องค์กรเขาก็ทราบดีอยู่ เพียงแต่วิธีการ รูปแบบ ขั้นตอนระยะเวลาการปรับตัวควรจะเร่งทำความชัดเจน เขาจะได้มีความเข้าใจ

ลุง"แอนนี่"เผย "ฟิลม์-รัฐภูมิ"มาเยี่ยมหลานชายที่รพ.ความลับเลยแตก


นายทวีศักดิ์ คำแดง อายุ 63 ปี ซึ่งเป็น อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ซึ่งมีศักดิ์ เป็นลุง ของแอนนี่ บรู๊ค เปิดเผยว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างแอนนี่ หลานสาว กับฟิลม์ รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ที่ผ่านมา แม่ของแอนนี่ และญาติเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รับทราบเรื่องนี้ ว่าแอนนี้ได้ตั้งท้อง คิดว่าเรื่องนี้จะจบลงด้วยดี โดยที่หลานสาวไม่ได้เรียกร้องอะไรจากฟิล์มระหว่างนั้น นางจันทร์คำ ก็ได้เดินทางไปเยี่ยมลูกสาวที่กรุงเทพฯหลายครั้ง ตั้งแต่ตั้งท้อง แต่เรื่องกลับมาเป็นข่าว และโด่งดังในขณะนี้ เนื่องจากลูกชายของแอนนี่ ไม่สบายเป็นไข้หวัด และต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ทำให้ฟิล์มพร้อมครอบครัว ได้เดินทางมาเยี่ยมแอนนี่ และ ลูกชาย ที่โรงพยาบาล ทำให้มีผู้พบเห็น และ ทราบเรื่องจนกลายเป็นข่าวดังขึ้นมา


"จนถึงขณะนี้ผมมั่นใจว่า ไม่ได้มีบุคคลที่ใกล้ชิดของทั้ง 2 ครอบครัว ให้รายละเอียดเผยแพร่ข่าวออกไป เพราะทั้ง 2 ครอบครัวเข้าใจต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น"
นายทวีศักดิ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา ได้มาดูแลนางจันทร์คำ มีเลข แม่ของ แอนนี่ บรู๊ค เนื่องจากไม่สบาย เพราะคิดมากกับเรื่องของลูกสาวที่เกิดขึ้น ทำให้ความดันโลหิตสูงเริ่มแสดงอาการ ไม่ว่าจะปวดศีรษะ วิงเวียนศีรีษะ และอาเจียนอยู่ตลอดเวลา กรณีที่เกิดขึ้นกับ แอนนี่ บรู๊ค ถือว่าส่งผลกระทบด้านจิตใจต่อผู้เป็นแม่อย่างมาก โดยเฉพาะเกิดความเป็นห่วงว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร


อภิสิทธิ์ยันปราสาทตาเมือนธมเป็นของไทย


Please ,slow down.khmer

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ  กล่าวถึงการตรวจสอบข่าวที่ประเทศกัมพูชากล่าวอ้างว่า ปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ อยู่เหนือดินแดนกัมพูชา และถ้าไทยเข้าไปบูรณะซ่อมแซม ฝ่ายกัมพูชาจะใช้กำลังทหารตอบโต้ ว่า เข้าใจว่าเรื่องที่คล้ายกันเคยเกิดขึ้น โดยทุกครั้งที่มีการพูดถึงการเข้าไปบูรณะ ก็จะมีลักษณะของการประท้วง ซึ่งเป็นทำนองเดียวกับเวลาที่มีข้อโต้แย้งกัน ต่างฝ่ายต่างรักษาสิทธิ์ของตัวเอง ทั้งนี้เป็นที่ชัดเจนว่าปราสาทตาเมือนธมอยู่ในพื้นที่ของไทย นายอภิสิทธิ์ ได้กล่าวว่า ของเรา เราถือว่าเป็นของเรา เขาเคยประท้วงมาเมื่อปี 2544 ท่าทีเช่นนี้ของกัมพูชาจะมีปัญหาต่อการเจรจากับนายฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ในช่วงการไปร่วมประชุมสหประชาชาติ(UN) ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การได้พบกันก็คงจะต้องคุยกันถึงหลักการกว้างๆอยู่แล้วจากสภาพปัญหาที่เกิด ขึ้น ซึ่งน่าจะได้หลักการหรือแนวทางว่าควรจะเดินไปอย่างไร และควรหลีกเลี่ยงอะไร

ดร.นที กรรมการ กทช. ทวิตแจงความสำคัญของ 3G



     พันเอก ดร.นที สกุลรัตน์ กรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. ได้ทวิตว่า มีคำถามและความสงสัยว่าการออกใบอนุญาตคลื่นความถี่ 3G ส่งผลต่อการพัฒนาระบบโทรคมนาคมของประเทศไทย จริงหรือไม่ อย่างไร ผมอยากเรียนว่าถ้าเรามอง 3G เป็นการบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ เราจะไม่เห็นความจำเป็น และความสำคัญของการออกใบอนุญาต 3G ในครั้งนี้เลย เนื่องจากการบริการ 2G ในปัจจุบันก็มีคุณภาพดีเพียงพอ ราคาเหมาะสมและทั่วถึง ที่จะให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในปัจจุบันเป็นอย่างดี
ถ้าเรามองว่า 3G คือ การให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย (Wireless Broadband) นั่นคือความแตกต่างและคือความสำคัญของการออกใบอนุญาต 3G การพัฒนาระบบโทรคมนาคมสำหรับประเทศไทยนั้น ยุทธศาสตร์ที่สำคัญและเร่งด่วนที่สุดในวันนี้ก็คือ การขยายการให้บริการบรอดแบนด์ให้ทั่วถึงมากที่สุด บรอดแบนด์จะเป็นถนนสายหลักเป็นระบบขนส่งที่จะนำเนื้อหา หรือ Content ในรูปแบบต่างๆ ไปสู่ผู้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศโดยมีข้อจำกัดน้อยที่สุด
บรอดแบนด์ใช้ 3 เทคโนโลยีที่สำคัญ คือ
   (1) ผ่านใยแก้วนำแสง
   (2) ผ่านคู่สายทองแดง ของโทรศัพท์พื้นฐาน 
   (3) ระบบไร้สายโดยใช้คลื่นความถี่
      เทคโนโลยีที่ใช้แตกต่างกันคือ ผ่านใยแก้วนำแสง ด้วย FTTH ในขณะผ่านคู่สายทองแดงโทรศัพท์บ้าน ด้วย ADSL และใช้คลื่นความถี่ ด้วย 3G หรือ WiMAX เทคโนโลยีที่ดีที่สุดสำหรับบรอดแบนด์หรืออินเตอร์เน็ตความเร็วสูงในวันนี้ คือ เทคโนโลยี Fiber to the Home (FTTH) ผ่านโครงข่ายใยแก้วนำแสง เทคโนโลยีที่ดีรองลงมาสำหรับบรอดแบนด์คือ ผ่านคู่สายทองแดงที่ไปถึงบ้านของผู้ใช้ทุกรายผ่านโครงข่ายโทรศัพท์พื้นฐาน ด้วยเทคโนโลยี ADSL ในการบริการบรอดแบนด์ การใช้คลื่นความถี่ด้วยเทคโนโลยี 3G หรือ WiMAX มีคุณภาพการบริการและความเร็วต่ำที่สุด เมื่อเทียบกับ FTTH และ ADSL

Sunday, September 19, 2010

"เฮียฮ้อ" RS ยอมพักงานไข่ทองคำ สั่งระงับงาน"ฟิล์ม"



เมื่อเวลาประมาณ 11.20 น.นาย สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ หรือเฮียฮ้อ บิ๊กบอสค่ายRS ต้นสังกัด ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ แถลงข่าวถึงอนาคตของนักร้องดัง โดยสั่งระงับผลงานของฟิล์มทั้งหมดไว้ชั่วคราว ให้กลับไปเคลียร์ปัญหาก่อน โดยกล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของคน 2 คน ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไม่มีใครทราบ นอกจากทั้ง2คน และเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน ขอทุกคนอย่าใช้อารมณ์ ความรู้สึกหรือกระแสสังคมมาตัดสิน ความถูกต้อง ความจริง เป็นสิ่งที่จะปกป้องทุกคน ทางRS จะระงับงานทุกอย่างของฟิล์มจากนี้เอาไว้ก่อน เพื่อให้เวลาฟิล์มได้ไปจัดการเรื่องที่เกิดขึ้น เรื่องที่เกิดเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย สิ่งที่ควรจะสนใจในเวลานี้คือหนึ่งชีวิตที่เกิดขึ้นมาตอนนี้
เฮียฮ้อ กล่าวอีกว่า ฟิล์มเครียดมากกับเรื่องนี้ โทรมาปรึกษาร้องไห้เสียใจ ขอโทษเฮีย เฮียก็ให้คำปรึกษาและให้กำลังใจ เรื่องสัญญายังไม่ใช่ประเด็นในวันนี้ สิ่งสำคัญคือการพิสูจน์ความจริง ถ้าใช่ฟิล์มก็ต้องรับผิดชอบในฐานะลูกผู้ชายคนหนึ่ง
"ก่อนวันที่ฟิล์มแถลงข่าว ได้มาปรึกษา แนะนำไปว่าเป็นลูกผู้ชายบอกความจริง ช่วงที่ผ่านมา ฟิล์ม โทรมาปรึกษาและร้องไหฟูมฟายกับเฮีย เขาค่อนข้างเครียดมาก ถ้าพูดจริงๆเป็นเรื่องคน 2 คน ถ้าผิดก็ต้องผิดกัน 2 คน และมีทางที่จะทำให้ถูกขึ้น ยอมรับว่าหนักใจในการตัดสินใจ อนาคตข้างหน้ายังตอบไม่ได้ เรื่องสัญญา RS ยังไม่ใช่ประเด็น" เฮียฮ้อ กล่าว


วิจัยพบทารกในครรภ์ ถึง อายุ 6ขวบฟังเพลงคลาสสิคฉลาดกว่าเด็กทั่วไป ( Benefits of Music in Children )


 ศ.เกียรติคุณ พญ.ชนิกา ตู้จินดา ผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) กล่าวว่า สื่อที่มีเนื้อหารุนแรงได้ทำให้เด็กเกิดพฤติกรรมเลียนแบบ ขณะที่สื่อสร้างสรรค์ในโทรทัศน์มีพื้นที่เพียงร้อยละ 5 วิทยุมีเพียงร้อยละ 1 ขณะที่เด็กและเยาวชนมีมากกว่า 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ

“ผลการวิจัยพบว่าเด็กที่ฟังดนตรีตั้งแต่อยู่ในครรภ์จนถึง 6 ปี จะฉลาดกว่าเด็กทั่วไป เพราะดนตรีช่วยพัฒนาเชาวน์ปัญญาในเด็กเล็ก โดยเฉพาะดนตรีคลาสสิกหรือดนตรีที่มีจังหวะช้าๆ ฟังสบายๆ แต่ถ้าเด็กฟังรายการหรือดนตรีที่ไม่สร้างสรรค์โดยเฉพาะเด็กเล็ก เมื่อโตขึ้นจะสายเกินไปในการรับรู้เรื่องของความดีกับสิ่งที่ไม่ดีของดนตรี ซึ่งรายการวิทยุเพื่อเด็กและครอบครัวถือเป็นช่องทางหนึ่งในการนำเสนอเนื้อหา ที่หลากหลายของเด็ก เยาวชน และผู้ปกครอง” ศ.เกียรติคุณ พญ.ชนิกา กล่าว
นางสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน ผู้ดำเนินรายการพ่อแม่มือใหม่หัวใจเกินร้อย FM 105 MHz กล่าวว่า จากผลการสำรวจความคิดเห็นของชาวกรุงเทพฯ และปริมลฑล ที่มีต่อสถานีวิทยุไทยเพื่อเด็กและครอบครัว FM 105 MHz ในกลุ่มตัวอย่างอายุระหว่าง 6-60 ปีขึ้นไป จำนวน 535 คน ระหว่างวันที่ 14-15 ส.ค. พบว่า สื่อวิทยุยังคงได้รับความนิยม โดยกลุ่มตัวอย่างกว่าครึ่งหนึ่ง หรือร้อยละ 61 ยังคงรับฟังรายการวิทยุ ซึ่งกลุ่มคนที่ฟังรายการวิทยุมากที่สุดคือ กลุ่มวัยครอบครัว (40 - 49 ปี) คิดเป็นร้อยละ 82 ตามด้วยกลุ่มวัยทำงาน (20 - 29 ปี) คิดเป็นร้อยละ 70 ส่วนกลุ่มเยาวชน (13-20 ปี) ฟังรายการวิทยุร้อยละ 56 และกลุ่มเด็ก (6-12 ปี) ฟังรายการวิทยุร้อยละ 44


แอนนี่ยันสุขภาพจิตดีขึ้น เผยยังไม่ได้รับการติดต่อกลับฟิลม์


คืบหน้าเกี่ยวกับกรณีของ"ฟิล์ม" รัฐภูมิ โตคงทรัพย์ กับนักแสดงสาวลูกครึ่ง แอนนี่ บรู๊ค ที่คลอดน้องทีฆายุ ลูกน้อยวัย 3 เดือน ซึ่งยังคงเป็น talk of the town อยู่ในขณะนี้ ล่าสุด นักแสดงสาวได้ยังไม่ได้รับการติดต่อจากนักร้องดัง
"ตั้งแต่แถลงข่าวไป ฟิลม์ยังไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย แอนนี่เอง ก็ไม่ได้จะเรียกร้องอะไร ก็อย่างที่แอนนี่ให้สัมภาษณ์ไปในตอนนั้น ตอนนี้สภาพจิตใจดีขึ้นมาก มีความสุขที่ได้ใช้ชีวิตอยู่กับลูก ทุ่มเทให้เขา เพราะลูกคือทุกสิ่งทุกอย่าง เวลาที่เห็นลูกมีความสุขเราก็หายเหนื่อยและมีความสุขตามไปด้วย" แอนนี่กล่าว
แอนนี่ยังกล่าวถึงกระแสที่สังคมเรียกร้องหรือบีบให้ไปตรวจDNA ว่า เรื่องนี้เป็นอย่างที่พูดไว้ตั้งแต่ตอนนั้น มันไม่ใช่เรื่องการที่ใครจะมาบีบตนได้ นอกจากตนเอง ซึ่งตัดสินใจไปแล้ว และยังยึดการตัดสินใจเช่นเดิม ทั้งนี้ต้องขอบคุณทุกคนที่พยายามจะช่วยหาทางแก้ไข แต่เคยแก้ไขแล้ว ซึ่งไม่ได้ผล ตอนนี้ขอใช้ความรู้สึกของตัวเอง และความสุขของลูกมาเป็นตัวตัดสินดีกว่า ทั้งนี้บริษัทอาร์เอส แจ้งว่า เฮียฮ้อ เตรียมแถลงข่าวเรื่องอนาคตของฟิล์มที่อาคาร 3 ตึกเชษฐโชติศักดิ์ บริษัทอาร์เอส ลาดพร้าว กรุงเทพฯ วันที่ 20 กันยายน เวลา 11.00 น.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : แอนนี่ เปิดใจเรื่อง ฟิลม์ กับ"เรื่องเล่าเช้านี้" ไม่สนฟิลม์ ขอเลี้ยงลูกเอง(พร้อม clip สัมภาษณ์สด)

สิบแปดกันยา ชาวชิลีฉลองใหม่ครบรอบ200ปี หลักจากแยกเอกราชจากสเปน (Happy Sept 18th, 200 year Anniversary of Chile from Spain)





      คนงานเหมืองทั้ง 33 คนที่ติดอยู่ใต้ดินลึกกว่า 700 เมตรร่วมกันร้องเพลงชาติ พร้อมกับโบกธงชาติชิลีในโอกาสฉลองวันประกาศเอกราชของชิลี ( Chile )จากสเปน( Spain )ครบรอบ 200 ปี คนงานกลุ่มนี้ ยังได้รับประทานอาหารตามประเพณีของชิลี คือพายเนื้อคนละ 2 ชิ้น ที่อบเป็นลักษณะกรวย เพื่อให้ส่งผ่านท่อลงไปให้คนงานได้ พร้อมกับดื่มน้ำอัดลมแทนไวน์ เพราะแพทย์ไม่อนุญาตให้คนงานดื่มไวน์

        ทีมกู้ภัยยังได้ส่งเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องมือ ที่คนงานจะใช้ในการขนย้ายหินน้ำหนักหลายตัน ที่จะตกลงไปตามช่อง ระหว่างการขุดเจาะช่องให้ใหญ่ขึ้น   ขณะที่ด้านบนธงชาติพร้อมลายเซ็นของ
คนงานเหมืองได้รับการเชิญขึ้นสู่ยอดเสา ใกล้กับเต้นท์ที่ครอบครัวคนงานเหมืองมารวมตัวเพื่อรอฟังข่าว

    ประธานาธิบดี ซีบาสเตียน ปิเนร่า ของชิลีประกาศให้ความช่วยเหลือคนงานเหมืองอย่างเต็มที่ ขณะที่รัฐบาลไม่ยอมประเมินงบประมาณที่ใช้ในการช่วยเหลือคนงานเหมืองในครั้งนี้ แต่คาดว่าเฉพาะการขุดเจาะช่องทางอย่างเดียว จะใช้งบเกือบ 5 ล้านดอลลาร์ ซึ่งค่าใช้จ่ายทั้งหมดอาจสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์หรือกว่า 300 ล้านบาท / จนถึงปัจจุบัน คนงานติดอยู่
ใต้เหมืองนาน 46 วันแล้วหลังหินกว่า 7 แสนตันได้เกิดถล่มลงบริเวณตอนกลางของเหมืองทองและทองแดงแห่งนี้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคม




Friday, September 17, 2010

เกาหลีเหนือแอบกักตุนข้าวถึง 1 ล้านตัน


หนังสือพิมพ์ โชซอน อิลโบ(Choson Sinbo (Chosun Shinbo) *)  ของเกาหลีใต้ (Republic of Korea)  รายงานว่า แม้ว่าประชาชนชาวเกาหลีเหนือ( Democratic People's Republic of Korea : DPRK )จะกำลังเผชิญกับสภาพความขาดแคลนอาหารและความ เสียหายอย่างหนักจากน้ำท่วมเมื่อไม่นานมานี้ แต่กลับมีรายงานว่า กองทัพเกาหลีเหนือ ได้กักตุนข้าวเอาไว้มากกว่า 1 ล้านตัน
ในการประชุมสมัชชาแห่งชาติ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา นายคิม มู-ซอง ผู้นำพรรคแกรนด์ เนชั่นแนล ของเกาหลีใต้ กล่าวว่า การเรียกร้องให้มีการบรรเทาทุกข์ด้านมนุษยธรรมให้แก่เกาหลีเหนือ เป็นเรื่องที่ไม่สมควรในเวลานี้ เนื่องจากเกาหลีเหนือมีข้าวกักตุนไว้ถึง 1 ล้านตันเพื่อเตรียมเอาไว้ทำสงคราม และจำเป็นต้องนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาอีกครั้ง
ตัวเลขข้าวที่เกาหลีเหนือกักตุนไว้ ได้มาจากรายงานของสำนักข่าวกรองแห่งชาติ ซึ่งเกาหลีใต้กำลังวิตกเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะเกาหลีใต้เองสามารถกักเก็บข้าวไว้ได้เองเพียง 1.49 ล้านตันและถ้ารายงานนี้เป็นความจริง ก็จะนำไปสู่การเปิดอภิปรายกันว่า ควรจะเพิ่มความช่วยเหลือด้านการบรรเทาทุกข์ให้แก่เกาหลีเหนือหรือไม่
 * The Choson Sinbo (Chosun Shinbo) is a newspaper based in Japan, published in both Korean and Japanese


ลินด์เซย์ โลฮาน( Lindsay Lohan ) ไม่ผ่านการตรวจหาสารเสพติด ( Lindsay Lohan Fails Drug Test )


     Lindsay Lohan has failed a court-mandated drug test, a source tells PEOPLE. The actress could now be facing 30 days in jail. The actress, 24, was released from rehab Aug. 24 after serving almost two weeks in jail for violating probation in a DUI case.

นิต ยสารพีเพิล (People Magazine) รายงานว่า ลินด์เซย์ โลฮาน ( Lindsay Lohan ) นักแสดงจอมอื้อฉาวแห่งฮอลลีวู้ด(Hollywood) วัย 24 ปี ไม่ผ่านการตรวจหาสารเสพติดตามคำสั่งศาล เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และถ้าเรื่องนี้เป็นความจริง เธออาจต้องถูกจำคุกครั้งใหม่อีก 30 วัน เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของทัณฑ์บน

ลินด์เซย์ ได้รับการปล่อยตัวจากทัณฑสถานหญิงในลินด์วู้ด เมื่อเดือนที่แล้ว หลังจากรับโทษนาน14 วัน จากทั้งหมด 90 วัน ฐานละเมิดทัณฑ์บนในคดียาเสพติด เมื่อปี 2550 แต่ทางหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการตรวจหาสารเสพติดจะไม่มีการเปิดเผยราย ละเอียดเรื่องนี้ ด้านลินด์เซย์ ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ ต่อนิตยสาร ยูเอส วี้คลีย์ว่า รายงานข่าวเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
ที่มา : www.people.com

Thursday, September 16, 2010

แอนนี่เปิดใจเรื่อง ฟิลม์ กับ"เรื่องเล่าเช้านี้" ไม่สนฟิลม์ ขอเลี้ยงลูกเอง


       แอนนี่ บรู๊ค หรือ รุ่งนภา บรู๊ค คู่กรณีของ   ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์  นักร้องดังค่าย RS ได้โฟนอินเข้ารายการเรื่องเล่าเช้านี้ ด้วยน้ำเสียงเศร้าว่า "ตอนแรกที่ฟังการแถลงของพระเอกคนดัง ก็ขอบคุณเขาที่เขาไม่ปฏิเสธที่บอกว่ารู้จักแอนนี่ แต่ก็เสียใจและผิดหวังในบางคำพูดที่เขาพูดออกมา เรื่องราวทั้งหมดแอนนี่ไม่มีเจตนาที่จะทำร้ายใครทั้งสิ้น และเรื่องราวที่มาถึงวันนี้ มันน่าจะเป็นข้อหนึ่งได้ว่าแอนนี่ไม่ได้ต้องการที่จะเป็นข่าว เรื่องราวไม่ได้หลุดมาจากแอนนี่
แอนนี่ บรู๊ค ยังกล่าวอีกว่า "หนูพูดได้คำเดียวว่า หนูเคยรักผู้ชายคนนี้มากคะ ถ้าถามว่าออกหน้าออกตาออกสื่อไหม ก็คงรู้ว่ามันไม่ได้มีข่าว ไม่มีอะไร แต่ความรู้สึกของหนู ก็มีความรู้สึกดีดีกับผู้ชายคนนึง หนูไม่อยากพูดอะไรแบบที่ทำให้เขาต้องเสียหาย หนูไม่มีเจตนา ถ้าถามคบกันแล้วห่างหายกันไปแล้วเพิ่งมาพูดเนี่ย แม้แต่ในกองละคร(ปีศาจแสนกล)ก็รู้ดี ไม่ใช่แค่หนูหรือตัวเขา เรารู้จักกันตอนละครปีศาจแสนกล ทางช่องสาม สำหรับตัวหนูจิตใจหนูแล้ว เขาก็เป็นผู้ชายคนนึงที่เคยรู้สึกดีดี และเคยเป็นคนที่มีคำว่ารักให้"
ดาราสาว กล่าวอีกว่า "พอได้ดูการฉายซ้ำเรื่องการแถลงของฟิล์ม ตอนแรกก็เสียใจนะ แต่ก็ดีใจที่เขายอมรับว่ารู้จักกัน หนูเข้าใจเขาทุกอย่าง ว่ามันจะต้องออกมาเป็นแบบนี้ ตอนนี้ไม่โกรธไม่เสียใจแล้วและเข้าใจทุกอย่าง เมื่อคืนที่ผ่านมา ก็ไม่ได้นอนเลย แล้วยิ่งตอนนี้ก็ไม่สบายด้วย และน้องก็เพิ่งออกจากรพ.มาเองด้วย ก็เลยป่วยทั้งแม่และลูกชาย ส่วยชื่อเล่นตอนนี้ ยังไม่มีเลย ยังไม่ได้ตั้ง"
แอนนี่ บรู๊ค ยังกล่าวย้ำว่า "ตั้งแต่รู้ว่าตัวเองท้องจนถึงทุกวันนี้ ยืนยันไม่มีเจตนาว่าจะทำร้ายใครทั้งสิ้น หรือไปเรียกร้องความเห็นใจ หรือความรับผิดชอบจากใคร หรือจะไปทำลายชื่อเสียงใครทั้งสิ้น เด็กคนนี้หนูจะเลี้ยงของหนูเอง ไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใครทั้งสิ้น เพราะเขาเป็นสมบัติของหนู คนในกองละครก็รู้ดี เรื่องการช่วยเหลือก็มีบ้าง เขาบอกว่าจะช่วยในฐานะเพื่อนคนนึง หนูก็รับจากเขา แต่ยืนยันไม่ได้ไปร้องขอให้มาช่วยเหลือ"
"ครอบครัวหนู ไม่มีอยากให้มีเสียหายกับใคร เคยมีความคิดไปตรวจ DNA แต่ความรู้สึกนั้นผ่านไปแล้ว ไม่ต้องไปตรวจแล้ว หนูเลี้ยงได้ หนูก็เลยไม่คิด ก็เลยบอกไปว่า ไม่เป็นไร ช่างมัน ณ ตอนนี้ตรวจ DNA เพื่ออะไรแล้ว หนูยังไม่เคยพูดด้วยซ้ำว่าใครเป็นพ่อ แต่ที่เป็นข่าวขึ้นมา เพราะว่ามีข่าวอักษรย่อซุปเปอร์สตาร์ ฟ.ฟัน แต่หนูขอพูดตรงนี้เลยว่า หนูเคยพูดแล้วสัญญากับใครบางคนว่าหนูจะไม่มีทางทำร้ายเขาเด็ดขาด จนถึงวันนี้หนูก็ยังยืนยันคำเดิมว่าหนูจะไม่ทำและไม่เคยคิดจะทำด้วย"
ช่วงสุดท้ายของรายการ แอนนี่ บรู๊ค ได้กล่าวฝากถึง ฟิล์มว่า "ขอบคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง หนูเคยรู้สึกดีอย่างไร ทุกวันนี้ ก็รู้สึกดีอยู่ และอยากให้รู้ว่าไม่เคยมีเจตนาทำร้ายเขาให้เสียชื่อเสียง ไม่ต้องห่วง"


เรื่องเล่าเช้านี้ แอนนี่ บรู๊ค 1/2


เรื่องเล่าเช้านี้ แอนนี่ บรู๊ค 2/2


Monday, September 13, 2010

Teachers angry and destroy mobile students in Thailand.




ญี่ปุ่นยอมขอโทษอดีตเชลยศึกอเมริกัน ใน WORLD WAR II



รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น นายคัตสึยะ โอกาดะ กล่าวขอโทษต่อตัวแทนอดีตเชลยศึกทหารอเมริกันของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้ง ที่ 2 สำหรับการที่ญี่ปุ่นปฏิบัติกับเชลยศึกเหล่านี้อย่างไม่มีมนุษยธรรม ซึ่งการขอโทษของญี่ปุ่นทำนองนี้ ถือว่าไม่ค่อยได้เกิดขึ้นมาก่อน (ควรจะขอโทษไทยด้วย ตอนนั้นก็ทำกับไทยไว้เยอะ แต่คนไทยไม่ค่อยจำกันเอง)

ตัวแทนเชลยศึกซึ่งปัจจุบันต่างก็อยู่ในวัยสูงอายุทั้งหมด และหนึ่งในจำนวนนั้น ต้องนั่งอยู่บนรถเข็น เป็นอดีตเชลยศึกทหารอเมริกันกลุ่มแรก ที่เดินทางมาเยือนญี่ปุ่นภายใต้การรับรองของรัฐบาลญี่ปุ่น ขณะที่ก่อนหน้านี้ อดีตเชลยศึกจากประเทศอื่นเคยได้รับเชิญให้มาเยือนญี่ปุ่นก่อนแล้วลสเตอร์ เทนนี่ หัวหน้ากลุ่มวัย 90 ปี บอกว่าเขารับคำขอโทษของฝ่ายญี่ปุ่นด้วยความยินดี แต่อยากให้ภาคธุรกิจเอกชนของญี่ปุ่นออกมาขอโทษด้วย สำหรับการใช้แรงงานเชลยศึกทั้งในเหมืองแร่ และโรงงาน ซึ่งบ่อยครั้ง สภาพการทำงานโหดร้ายทารุณมาก

รัฐมนตรี ICT อึ้งกสทฯฟ้องกทช.ล้มประมูล3G



นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ICT) เปิดเผยว่า ได้เรียก 3 บอร์ดรัฐวิสาหกิจใต้สังกัด คือ บมจ.ทีโอที บมจ. กสท โทรคมนาคม บริษัทไปรษณีย์ไทย มาสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับภารกิจที่มอบหมายไว้ โดยในส่วนของไปรษณีย์ไทย เป็นเรื่องความคืบหน้าทั่วๆ ไป
ด้าน บมจ. TOT ได้สอบถามเกี่ยวกับโครงการลงทุนโครงข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G ทั่วประเทศ ซึ่งทาง TOT ยืนยันว่าแผนงานต่างๆ เสร็จพร้อมเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ จึงคาดว่าภายในเดือน ต.ค. นี้ ตนจะเสนอโครงการนี้เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ โดยจะให้รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของTOT 2 คน เข้าไปชี้แจงกับคณะรัฐมนตรีด้วย ส่วนเรื่องของการฟ้องร้องเพื่อล้มประมูล 3G ของTOTยังไม่ได้มีการพูดถึง
“กสท. ได้เรียกกรรมการผู้จัดการใหญ่ มาถามเหตุผลว่า ฟ้อง กทช. ทำไม ซึ่งนายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง ชี้แจงว่า ถ้าไม่ทำจะมีผลต่อการประเมินผลการปฏิบัติงาน อาจทำให้ไม่ผ่านการประเมินได้ หากเขาไม่ฟ้อง ทางสหภาพแรงงานและพนักงานจะเล่นงานเขาได้ ซึ่งพอฟังแล้วเป็นเหตุผลที่น่าสะอึกเหมือนกัน”
ตนจึงได้บอกไปว่า นโยบายของกระทรวงICT ไม่อยากจะให้มีการฟ้องร้อง นายกรัฐมนตรีเองก็ประกาศชัดเจนว่า อยากจะเห็นบริการ 3Gเร็วๆ สิ่งที่ กสท ทำเหมือนจะตั้งใจล้มการประมูล ซึ่งคัดค้านกับกระแสสังคม
“วันนี้ผมก็โดนที่พรรคประชาธิปัตย์ ถามเรื่องที่ กสท ฟ้อง กทช. ก็ไม่รู้จะตอบยังไง เพราะ กสท ใต้สังกัด จึงได้แต่ยืนยันไปว่า ไอซีทีไม่มีนโยบายให้ฟ้องร้อง ทางนายกก็ยืนยันว่าอยากเห็น 3G”


กรมทรัพย์สินปัญญา ทูลเกล้าฯถวายสิทธิบัตร 3ผลงานประดิษฐ์


13 ก.ย. -- นายอลงกรณ์ พลบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญาเตรียมร่างสิทธิบัตรใหม่ 3 ฉบับ เพื่อทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตามที่พระองค์ทรงยื่นขอจดสิทธิบัตรการประดิษฐ์ใหม่ 3 ผลงาน ได้แก่

1.) ระบบปรับปรุงคุณภาพน้ำด้วยรางพืชร่วมกับเครื่องกลเติมอากาศ
2.) เครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานจล
3.) ชุดสำเร็จเครื่องกำเนิดไฟฟ้าพลังงานจล

คาดว่าจะสามารถจดทะเบียนสิทธิบัตรและทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวได้ในเร็วๆ นี้

Sunday, September 12, 2010

กระทรวงการต่างประเทศไม่ให้องค์กรสิทธิ์ฝรั่งเศสใช้ไทยเป็นฐานโจมตีเวียดนาม


กระทรวงการต่างประเทศของไทยส่งหนังสือถึง สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย หรือ FCCT ตอบโต้กรณีที่สหพันธ์สิทธิมนุษยชนสากล หรือ FIDH และคณะกรรมการสิทธิมนุษยนชนเวียดนาม มีแผนจัดงานแถลงข่าวที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยในวันพรุ่ง นี้ เพื่อเผยแพร่รายงานเรื่อง "จากคำบอกเล่าสู่ความจริง : สิทธิมนุษยชนในเวียดนาม"
เนื้อความในจดหมาย ระบุข้อความของนายธานี ทองภักดี รักษาการอธิบดีกรมสารสนเทศว่า แม้รัฐบาลไทยจะให้ความสำคัญกับหลักการของเสรีภาพในการแสดงออก และความหลากหลายทางความคิดเห็น รัฐบาลไทยมีจุดยืนยาวนานที่จะไม่อนุญาตให้องค์กรและ/หรือบุคคลใดใช้ประเทศ ไทยเป็นฐานของการดำเนินกิจกรรม ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อประเทศอื่น ตนหวังว่า สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย จะเคารพจุดยืนของรัฐบาลและจะไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทยดำเนินกิจกรรมดังกล่าว
สมาคมผู้สื่อข่าวต่างประเทศแห่งประเทศไทย ระบุผ่านWebsiteว่า สมาคมรู้สึกเสียใจที่รัฐบาลไทยเลือกที่จะกดดันสมาคมด้วยวิธีนี้ และหวังว่ารัฐบาลจะพิจารณาเหตุผลของการกดดันดังกล่าวอีกครั้ง จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะยังจัดแถลงข่าวต่อไปหรือไม่


โฆษกนายกเจอกับตัวฉุนบิน low cost ขูดเลือดค่าตั๋วแพงมหาโหด


นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนจำนวนมากว่าสายการบินต้นทุนต่ำหรือโลว์คอร์ สมีราคาสูงกว่าที่ควร เป็นการหลอกลวงประชาชน ซึ่งเป็นการฉวยโอกาสเอาเปรียบประชาชน โดยตนลองไปซื้อตั๋วเครื่องบินของนกแอร์เพื่อไปจังหวัดนครศรีธรรมราช ปรากฏว่าเที่ยวเดียว 4,000 บาท ไปกลับ 8,000 บาท ซึ่งถือว่าแพงกว่าการบินไทย นอกจากนี้ยังมีสายการบินอื่น ๆเช่น แอร์เอเชีย วันทูโก ก็ราคาแพงเช่นกัน ซึ่งตนได้เก็บหลักฐานใบเสร็จ เพื่อไปยืนให้คณะกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 13 ก.ย.เพื่อจะเชิญูผู้บริหารของสายการบินดังกล่าวมาชี้แจง โดยเฉพาะการตั้งราคาโดยไม่กำหนดเพดานที่ชัดเจน ทั้งที่ควรกำหนดเพดานขั้นสูงสุดไม่เกิน 2,500 บาท เพราะเมื่อประชาชนส่วนใหญ่เดินทางไปซื้อตั๋วที่จุดขายจะมีการขึ้นราคาสูงมาก โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล และมีความจำเป็นต้องไป ถือว่าเป็นการมัดมือชก เหมือนกับฝีถึงป่าช้าแล้วอย่างไรก็ต้องเผา โดยไม่มีทางเลือก

จับเจ้าบ่าวกลางงานแต่ง ตร.แฉหนีคดีลักรถจักรยานยนต์ 1 ปีเต็มๆ


ร.ต.ท.ภิญโญ เชาว์นวม รองสารวัตนสืบสวน สภ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ได้นำหมายจับศาลจังหวัดสิงห์บุรี ที่ 206/2552 เข้าจับกุมนายภิรายุ ประเทพทิม อายุ 20 ปี บ้านเดิมเลขที่ 210 หมู่ที่ 2 ต.โพนางดำตก อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ขณะที่ผู้ต้องหากำลังแต่งงานและฉลองกันอยู่ที่บ้านเลขที่ 201/4 หมู่ 6 ต.ถอนสมอ อ.ท่าช้าง จ.สิงห์บุรี พร้อมแจ้งข้อหาลักทรัพย์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2552 ผู้ต้องหาได้ไปลักรถจักรยานยนต์ที่หน้าวัดศรีจุฬา หมู่ 1 ต.น้ำตาล อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบได้ว่า นายภิรายุเป็นผู้ลักไป จึงขอหมายจับและจับกุมตัวนายภิรายุ
จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าหนีคดีไป 1 ปี คิดว่าเรื่องเงียบจึงกลับมาแต่งงาน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่ง พ.ต.ท.ประกอบ ภูมิวัฒนะ พนักงานสอบสวน สภ.อินทร์บุรี เพื่อดำเนินคดีต่อไป


เก็บตกงาน 3.9G DNA :ห่วง 3G กระจุกตัว ทำคนจนจ่ายแพงและเสียโอกาส


คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.) จัดสัมมนาเชิงวิชาการในงานมหกรรมเทคโนโลยีการสื่อสาร 3.9 G โดยมีการเสวนาของ ”เครือข่ายพลเมืองเน็ต” หัวข้อ "สิทธิพลเมืองกับ 3G” ผู้เข้าร่วมเสวนาส่วนใหญ่มีส่วนในการผลักดันเทคโนโลยี 3G อาทิ นายต่อพงษ์ เสลานนท์ ประธานคณะทำงานด้านกิจการที่ไม่ใช้คลื่นความถี่ ในคณะอนุกรรมการกทช. ดร.นวลน้อย ตรีรัตน์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค โดย น.ส.สุภิญญา กลางณรงค์ ผู้ประสานงานเครือข่ายพลเมืองเน็ตเป็นผู้ดำเนินรายการ
ทั้งนี้ที่ประชุมส่วนใหญ่สนับสนุนให้มีการประมูลใบอนุญาต 3G ในประเทศไทย เพราะล้าหลังมานานแล้วเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศต่างๆในเอเชีย โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่ใช้ 3G เป็นประเทศแรกของโลกตั้งแต่ปี 2001 แต่ก็เป็นห่วงว่าพลเมืองที่จะใช้ 3G ต้องมีภูมิความรู้เท่าทันเทคโนโลยีไม่ให้กลายเป็นเหยื่อของเทคโนโลยี
นายต่อพงษ์ กล่าวว่า การใช้ 3G จะเป็นโอกาสที่คนพิการจะเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมากขึ้น แต่ต้องเก็บค่าใช้จ่ายไม่แพงเกินไป เพราะคนยากจนจะได้มีโอกาสใช้ประโยชน์ ที่สำคัญต้องรู้เท่าทันเทคโนโลยี 3G ทั้งด้านดีและด้านลบ เช่น การหลอกขายของที่วันนี้กลายเป็นเรื่องปกติที่มาพร้อมกับอินเตอร์เน็ต
ด้าน ดร.นวลน้อย กล่าวว่า ปัญหาของการใช้อินเตอร์เน็ตวันนี้คือการกระจุกตัวของผู้ใช้ โดยหากมองว่าประชากร 25 เปอร์เซนต์ของประเทศเป็นผู้ใช้อินเตอร์เน็ตก็คงไม่น่าแปลกใจ แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปจะพบว่าใน 25 เปอร์เซนต์นั้น 80 เปอร์เซนต์อยู่ใน กทม. ดังนั้นหากจะให้ 3G เป็นเครื่องมือกระจายความรู้ ข้อมูล ไปสู่ประชาชนในชนบท กทช.ต้องตอบโจทย์การกระจายตัวของเทคโนโลยีให้ได้ นอกจากนี้ค่าบริการอินเตอร์เน็ต ที่ยังแพงเกินไป ยังเป็นอุปสรรคขัดขวางไม่ให้คนยากจนเข้าถึง 3G โดยเฉพาะระบบพรีเพด (จ่ายก่อนใช้) เดือนละ 170 บาท ขณะที่รายได้ของคนที่อยู่เส้นความยากจนอยู่ที่ 1,200 บาทต่อเดือน ดังนั้นค่าบริการเกิน 10 เปอร์เซนต์ถือว่าแพงเกินไป กลายเป็นความเหลื่อมล้ำในด้านโอกาส
ขณะที่ น.ส.สารี กล่าวว่า ที่ผ่านมามีคนร้องเรียนเรื่องปัญหาการใช้โทรศัพท์น้อยมาก ทั้งที่มีปัญหาการคิดเงินไม่ถูกต้องจำนวนมาก รวมทั้งการส่ง SMS ตามอำเภอใจ ทั้งที่ผู้รับบริการไม่สมัครใจ ดังนั้นอยากให้ประชาชนที่พบปัญหาหรือถูกเอาเปรียบไปแจ้งปัญหาต่อ กทช.ให้มากๆเพื่อกดดันให้ต้องมาแก้ปัญหาให้ประชาชน


โจรขโมยตุ๊กแกอาละวาดขอนแก่น มูลค่านับแสนบาท



กรณีเกิดข่าวสะพัดทางภาคใต้ ว่ามีพ่อค้าชาวมาเลเซียเข้ามากว้านซื้อตุ๊กแกในราคาสูง หากตัวใหญ่น้ำหนักถึง 1 กิโลกรัม ให้ 2 แสนบาท ที่เหลือลดหลั่นกันไป โดยอ้างว่าจะนำหางไปสกัดยาต้านโรคมะเร็ง ทำให้ชาวอีสานแห่จับตุ๊กแกขายเป็นจำนวนมาก กระทั่งมีการสร้างฟาร์มรับซื้อและเพาะพันธุ์เพื่อให้ได้น้ำหนักก่อนส่งขาย
ได้เกิดเหตุขโมยตุ๊กแกจากสมชัยฟาร์ม เลขที่ 2 ม.4 บ้านสระแก้ว ต.บ้านฝาง อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น โดยนายพร้อมพันธุ์ พระพล อายุ 47 ปี เจ้าของ กล่าวว่า เมื่อคืนได้ออกไปจับตุ๊กแกในเขต อ.บ้านฝาง กระทั่งรุ่งเช้ากลับมาบ้านและแวะมาดูโรงเลี้ยงก็พบว่าประตูถูกคนร้ายงัดออก ตุ๊กแกพันธุ์หัวโตขนาดน้ำหนัก 3.2 ขีด ตัวยาว 15 นิ้ว จำนวน 23 ตัว ซึ่งเป็นพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ ถูกคนร้ายขโมยไป ซึ่งตุ๊กแกขนาดนี้หายาก เมื่อส่งขายต่างประเทศจะมีราคาถึงตัวละตั้งแต่ 30,000-150,000 บาทขึ้นไป เชื่อว่าคนร้ายรู้ว่าสถานที่เพาะเลี้ยงตุ๊กแกอยู่บริเวณใด รู้เวลาที่ไม่อยู่บ้าน
นายพร้อมพันธุ์ เล่าอีกว่า เมื่อปี 2530 มีอาชีพหาตุ๊กแกส่งขายให้นายหน้ารับซื้อที่นครพนมและสกลนคร ในราคาตัวละ 7 บาท เมื่อหามาได้ก็จะมาขังไว้เมื่อได้ปริมาณมากก็จะส่งขาย ส่วนใหญ่พ่อค้าคนกลางจะมีนายทุนจากประเทศเวียดนามและชาวไต้หวันมารับซื้อ และเมื่อปี 2549 เคยถูกคนร้ายขโมยตุ๊กแกมาแล้วแต่ไม่ได้แจ้งความ เนื่องจากชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนใหญ่ก็มีขายตุ๊กแกเช่นกัน กระทั่งปี 2550 ก็ถูกคนร้ายขโมยตุ๊กแกอีกครั้ง ขณะนั้นตุ๊กแกส่วนใหญ่ที่ถูกขโมยเป็นตัวเล็ก จนมีข่าวว่าชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ต้องการรับซื้อตุ๊กแกจำนวนมาก ทำให้มีคนสนใจที่จะหาตุ๊กแกกันมากขึ้น และขณะนี้ราคารับซื้อของพ่อค้าตุ๊กแกคนไทยจะให้ราคาตั้งแต่ 3-5 หมื่นบาทแล้วแต่ขนาด สำหรับตลาดการรับซื้อตุ๊กแกขณะนี้จะมีรถมารับซื้อถึงหน้าบ้าน ตัวละ10-15 บาท


"The 33 Movie" หนังที่สร้างจากเรื่องจริงของคนงานเหมืองในชิลี


ชีวิตคนงานเหมืองชิลี 33 คนที่กำลังรอความช่วยเหลือ หลังติดอยู่ในเหมืองลึกลงไป 700 เมตร ตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา กำลังจะถูกนำไปสร้างเป็นหนังที่ใช้ชื่อว่า "เดอะ เตอร์ตี้ทรี" (The 33)
หนังเรื่องนี้จะถูกสร้างโดยฝีมือของผู้กำกับชาวชิลี โรดริโก้ ออร์ทูซ่า โดยเขาให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่า หนังจะเน้นเรื่องราวของคนงานเหมืองที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่จำกัด และชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่ เมื่อพวกเขาได้รับการช่วยเหลือ และบอกว่าขณะนี้เขากำลังเขียนบทและรอดูว่าตอนจบของเรื่องจะเป็นอย่างไร แต่จนถึงขณะนี้ มีเรื่องน่ามหัศจรรย์เกิดขึ้นมากมายที่เขาอยากนำไปใส่ไว้ในหนัง
ออร์ทูซ่ายืนยันว่า ตนไม่ได้สร้างหนังเรื่องนี้เพื่อมุ่งแสวงหากำไรเชิงธุรกิจอย่างเดียว หลังมีเสียงวิจารณ์ว่า เขาเป็นพวกนักฉวยโอกาสจากเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจ โดยเขากำลังสร้างหนังที่อิงภาพเหตุการณ์จริงจากเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นtsunamiในชิลีเมื่อวันที่ 12 กพ. ที่ผ่านมาด้วย
เขาประกาศจะนำกำไรจากรายได้หนังบริจาคเข้ากองทุนเพื่อการศึกษาสำหรับลูกๆ คนงานเหมืองที่ประสบเคราะห์กรรมครั้งนี้
ออร์ทูซ่า เผยที่มาของชื่อหนัง "The 33" ว่า นอกจากคนงานเหมืองที่ติดอยู่มีจำนวน 33 คนแล้ว / ข้อความภาษาสเปนที่พวกเขาส่งขึ้นมาบอกโลกว่าปลอดภัย ซึ่งมีใจความว่า "พวกเรา 33 คนอยู่ในที่ที่ปลอดภัย" นับได้ 33 ตัวอักษรพอดีหนังเรื่องนี้จะมีความยาว 1 ชั่วโมง 33 นาที และมีกำหนดฉาย ในช่วงครึ่งหลังของปี 2555


ผอ สวนงนุช เผยปรับปรุงทำเนียบรัฐบาลฟรี เพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน


ดร.กัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุชพัทยา ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ยกกองคาราวานเครื่องมือ อุปกรณ์ คนงานจัดสวน และต้นไม้ จำนวนมากเข้าไปยังทำเนียบรัฐบาล และทำการปลูกต้นปาล์มยะวาเป็นกลุ่มละ 5 ต้น บริเวณหน้าตึกไทยคู่ฟ้า และตึกสันติไมตรี แซมด้วยต้นไทรอังกฤษ บริเวณโดยรอบกลุ่มต้นปาล์มยะวา โดยมีนาย กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายดูแลสถานที่ทำเนียบรัฐบาล มาคอยอำนวยความสะดวก และร่วมวางรูปแบบการจัดภูมิทัศน์ และต้องจัดสรรพื้นที่ไว้สำหรับจัดงานพิธี และพระราชพิธีต่าง ๆ ด้วยในเบื้องต้นขณะที่ยังจัดสวนไม่เสร็จสมบูรณ์ก็ทำให้เห็นความเปลี่ยน แปลงบริเวณทำเนียบรัฐบาลอย่างชัดเจน
ดร.กัมพล เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้จัดเตรียมต้นปาล์มยะวา สายพันธุ์จากประเทศอินโดนีเซีย ทราบว่าได้มีการนำเข้ามาปลูกในประเทศไทย ตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ได้เลี้ยงไว้นานประมาณ 20 ปี มีความสูงประมาณ 16 เมตร ประเมินราคาประมาณต้นละ 35,000 บาท จำนวน 70 ต้น ต้นปาล์มยะวาที่มีความสูงและสมบูรณ์อย่างนี้ไม่มีขายมีที่สวนนงนุชพัทยาแห่ง เดียวเท่านั้น จริงๆ แล้วคงประมาณค่ามิได้ และยังมีต้นไทรอังกฤษ สูงประมาณ 1 เมตร มาปลูกคลุมหน้าดินเพื่อความสวยงาม ไม่ให้บดบังทัศนียภาพ ความเด่นสง่าของตึกไทยคู่ฟ้าซึงการที่สวนนงนุชพัทยา มาดำเนินการครั้งนี้เป็นความตั้งใจเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน คืนกำไรสู่สังคม ไม่ได้คิดค่าใช้จ่ายจากรัฐบาลแม้แต่สลึงเดียว ประมาณค่าใช้จ่ายทั้งหมดคงไม่เกิน 6 ล้านบาท เพราะทำเนียบรัฐบาลซึ่งเปรียบเสมือนบ้านของคนไทยทั้งประเทศที่จะต้องโชว์ให้ ทั่วโลกได้ชื่นชมและเชื่อมั่นประเทศไทยมากขึ้น ใครผ่านไป-ผ่านมา ก็จะชื่นชม ผู้ที่ปฎิบัติภารกิจภายในทำเนียบรัฐบาลก็เกิดความชุ่มชื่น ได้มอบเห็นความเปลี่ยนแปลงหลังจากที่มีความเหี่ยวเฉามานานพอสมควร เมื่อเห็นภาพทำเนียบถูกนำเสนอออกทางสื่อมวลชนทั่วโลกรู้สึกว่าทำเนียบประเทศ ไทยไม่สวย ไม่เด่น จึงมีความตั้งใจสูงสุงในการปรับภูมิทัศน์ให้กับทำเนียบรัฐบาลของประเทศไทย เรา



ABAC POLL เผยประชาชนเชื่อคดีวิคเตอร์บูทส่งผลกระบวนยุติธรรมไทยเสียหาย


สำนัก วิจัยเอแบคโพล (ABAC POLL๗ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชน เรื่อง คดีวิคเตอร์บูท และจุดยืนทางการเมือง ล่าสุด ของสาธารณชน พบว่า

ประชาชนส่วนใหญ่ 32.7% มองว่านายวิคเตอร์บูท เป็นผู้ค้าอาวุธสงคราม
รองลงมา 13.4 % เป็นผู้ต้องหาที่กลุ่มการเมืองต่างๆ พยายามจะใช้ประโยชน์

และ 46.2 % ยอมรับว่า คดีวิคเตอร์บูทส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
ขณะที่ 13.8% เห็นว่าไม่ส่งผล และวิเคราะห์เฉพาะผู้ที่ติดตามข่าว

ส่วนใหญ่ 77% เห็นว่าส่งผล ต่อความมั่นคงของประเทศ
และที่น่าเป็นห่วงคือ ภาพลักษณ์กับกระบวนการยุติธรรมของไทย
หลังฝ่ายการเมืองและรัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้องกับคดี
พบว่าส่วนใหญ่ 78.9% เห็นว่าส่งผลภาพลักษณ์ กระบวนการยุติธรรม
ให้ประเทศไทยเสื่อมเสีย และการที่รัฐบาลยังไม่ส่งตัววิคเตอร์ บูทให้กับประเทศมหาอำนาจ
พบว่า 34.4% เห็นด้วยและ 21.2% ไม่เห็นด้วย


อย่างไรก็ตาม ยังพบว่า จุดยืนของรัฐบาลทางการเมืองของสาธารณชนต่อรัฐบาล
ลดลงจาก 21.9% ในเดือนมกราคม เหลือ 14.2% ในกลุ่มที่สนับสนุนรัฐบาล
ขณะที่กลุ่มไม่สนับสนุนรัฐบาลมีน้อยเหมือนเดิม คือ 18.2% ในเดือนมกราคม และล่าสุดอยู่ที่ 18.1%
ส่วนทางออกของปัญหาทั้งหมด ประชาชนส่วนใหญ่มองว่า การเพิ่มความเชื่อมั่นของ
สาธารณชนคนไทยและต่างชาติมองประเทศไทย ควรลดความขัดแย้งของฝ่ายการเมือง
เพิ่มความร่วมมือแก้ปัญหาระหว่าง ประเทศและความเดือดร้อนของประชาชน


Friday, September 10, 2010

ความเครียดทำคนไทยฆ่าตัวตายติดอันดับ16 ของโลก ผู้หญิงมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าชาย



               นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 กันยายน ทุกปี เป็นวันป้องกันการฆ่าตัวตายโลก โดยในปีนี้ องค์การอนามัยโลก ได้กำหนดหัวข้อการรณรงค์ว่า หลากหน้า หลายพื้นที่ รวมพลังป้องกันการฆ่าตัวตายโลก
โดยขณะนี้ อัตราการฆ่าตัวตายของประชากรทั้งโลก อยู่ที่ 16 คนต่อประชากรแสนคน สำหรับประเทศไทยข้อมูลในปี 2552 มีผู้ฆ่าตัวตายสำเร็จ 3,634 คน อัตราการฆ่าตัวตายอยู่ที่ 5.72 ต่อประชากร 100,000 คน สูงที่สุดในเดือนมิถุนายน จังหวัดที่มีอัตราการฆ่าตัวตายสูง 5 จังหวัดแรก ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำพูน เชียงราย เชียงใหม่ และ ระยอง โดยผู้หญิงมีความพยายามฆ่าตัวตายสูงกว่าผู้ชาย 3 เท่า แต่เมื่อมีความพยายามฆ่าตัวตายแล้ว ผู้ชายจะทำสำเร็จสูงกว่าผู้หญิง 3.5 เท่า
นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า สาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่เกิดจากความเครียด รองลงมาได้แก่ เป็นโรคซึมเศร้า ติดยาเสพติด และการเจ็บป่วยทางกาย อย่างไรก็ตาม การฆ่าตัวตายสามารถป้องกันได้ และโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่การฆ่าตัวตาย ก็สามารถรักษาให้หายขาดได้เช่นกัน ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือวิธีการป้องกันและวิธีการดูแลรักษา หากเป็นโรคซึมเศร้า โดยวิธีการป้องกันการฆ่าตัวตาย เช่น พยายามหาสิ่งยึดเหนี่ยวทางด้านจิตใจ สร้างความมั่นคงให้กับจิตใจ ฝึกทักษะในการแก้ปัญหาชีวิต ปัญหาส่วนตัว ความขัดแย้งต่างๆ ซึ่งครอบครัวจะมีบทบาทสำคัญในการช่วยลดการฆ่าตัวตายได้

Wednesday, September 8, 2010

นางงามออสเตรเลียแฉกลโกงมิส ยูนิเวิร์ส 2010เจอเข็มหมุดปักคาชุด


เว็บไซท์หนังสือพิมพ์ เฮอรัลด์ ซัน รายงานว่า บรรดาสาวงามที่เข้าประกวด มิส ยูนิเวิร์ส อาจแสดงให้เห็นว่า พวกเธอเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวานที่สุดในโลก พร่ำพูดเรื่องสันติภาพ ความรักและไมตรีจิต แต่เบื้องหลังเวทีประกวดกลับเต็มไปด้วยการเล่นสกปรกและการทำลายล้างกัน จากการที่ นางสาวเจซินต้า แคมพ์เบลล์ สาวงามจากออสเตรเลีย เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า มีสาวงามคนหนึ่งใน 82 ชาติ หรือผู้ติดตามนางงามบางคน เอาเข็มหมุดไปปักไว้ที่ชุดของเธอที่ใช้ประกวดที่ลาสเวกัส ประจำปี 2010 โดยเฉพาะชุดประจำชาติ สไตล์ศิลปะของชาวอะบอริจิ้น ที่ประกอบด้วยชุดว่ายน้ำวันพีซ และกระโปรงฟลามิงโก้สีสันสดใส ที่เธอต้องสวมเข้าชุดกับรองเท้าบู๊ทส้นสูง
แคมพ์เบลล์ กล่าวว่า เธอสวมชุดเตรียมจะออกไปเดินบนเวที แต่รู้สึกเจ็บแปลบเหมือนมีของแหลมทิ่มหลัง เมื่อถอดออกก็พบว่ามีเข็มหมุดหลายเล่มปักติดอยู่ และแม้เธอจะไม่ได้รับบาดเจ็บหรือมีบาดแผล แต่เธอก็ไม่มีเวลาที่จะเอามันออกทั้งหมด จำต้องใส่กลับเข้าไปเพราะถึงคิวต้องออกไปหน้าเวที และแม้ว่าชุดประจำชาติของเธอจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ แต่ก็ยังคว้าที่ 3 มาครองได้ แคมพ์เบลล์เริ่มทำงานเป็นผู้สื่อข่าวบันเทิงให้สถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ในรายการ เดอะ มอร์นิ่งโชว์ แม้เธอจะไม่ได้บอกว่าสงสัยว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ แต่ก็ยอมรับ นางงามเม็กซิโก, นางงามจากประเทศอเมริกากลาง และอเมริกาใต้ รวมถึงฟิลิปปินส์ เป็นคู่แข่งที่มาแรงและโดดเด่นที่สุด ซึ่งการได้รับตำแหน่ง มิส ยูนิเวิร์ส เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้เข้าประกวด เพราะพวกเธอจะได้รับการยกย่องเยี่ยงราชินีในประเทศของพวกเธอทันที รวมถึงทุกอย่างในชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาลด้วย แต่เธอไม่อาจบอกได้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของใคร มันยังคงเป็นเรื่องลึกลับสำหรับเธอ แต่ขณะเดียวกัน เธอก็รู้ว่าใครจะไม่ทำแบบนี้แน่ เพราะเธอมีเพื่อนนางงามที่เป็นเพื่อนรักอย่าง นางงามไอร์แลนด์ , เบลเยียม , เกรท บริเทน และกวม

สาวใหญ่โวย รถ Proton ห่วย ไม่มีคุณภาพ



เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ก.ย. น.ส.รุ่งอรุณ รัตโนภาส อายุ 35 ปี ขับรถแวนยี่ห้อโปรตอน รุ่นเอ๊กโซร่า เอชแอล สีขาว ป้ายแดง เข้าร้อง เรียนที่ศูนย์บริการโปรตอน บริษัท เอส.โอ. โอโตเซลส์ (ไทยแลนด์) ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ต.หนอง ป่าครั่ง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยเตรียมฆ้อนสำหรับทุบรถเพื่อประท้วงบริษัทหลังจากซื้อรถป้ายแดง คันดังกล่าวมาใช้แต่กลับเสียอย่างต่อเนื่อง
น.ส.รุ่งอรุณ เล่าว่า ซื้อและรับรถคันดังกล่าวจากบริษัทเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในตอน แรกใช้การได้ตามปกติ แต่ในวันที่ 16 มิ.ย. พบว่าเครื่องยนต์เริ่มมีเสียงดังผิดปกติ ต่อมาวันที่ 1 ก.ค.
พบ ว่าความเร็วรอบเครื่องยนต์ขึ้นสูงผิดปกติถึง 4,000 รอบ แต่ความเร็วเครื่องยนต์กลับไม่ขึ้นตาม และเร่งความเร็วไม่ขึ้นทำให้ต้องขับรถกลับบ้านได้เพียง 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และในวันที่ 8 ก.ค. ยังมีอาการเกียร์ออโตเมติคค้างและเสียงช่วงล่างดังมาก ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งสามครั้ง ตนได้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็ค ปรากฏว่าศูนย์ยืนยันไม่พบปัญหาใด ๆ ขณะที่รถยังผิดปกติต่อเนื่อง เช่น เสียงเครื่องยนต์และช่วงล่างดัง เปิดแอร์แล้วเร่งไม่ขึ้น จึงตัดสินใจขอให้บริษัทซ่อมทั้งหมดให้อยู่ในสภาพดีหรือขอให้บริษัทเปลี่ยนรถ คันใหม่ให้ แต่ปรากฏว่าทางบริษัทไม่สามารถซ่อมให้คืน และยังไม่ยอมเปลี่ยนรถให้
จึงปรึกษาสามี ตัดสินใจขอขายคืนรถให้กับบริษัท แต่ทางบริษัทอ้างต่าง ๆ นานาและประวิงเวลามาหลายครั้ง ตนจึงตัดสินใจยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่เป็นคดีคุ้มโครงผู้บริโภคที่ ผบ.1096/2553 โดย มีตนเป็นโจทก์ฟ้องบริษัทอยุธยาแคปปิตอล ออโต้ลีส จำกัด ( มหาชน) และ บริษัท เอส.โอ. โอโต เซลส์ (Thailand) เรื่องสินค้าไม่ปลอดภัย "ยานพาหนะ" โดยศาลนัดไต่สวนในวันที่ 24 ก.ย. นี้
ด้านนางสาวปณิสรา ขจรขรรคเพชร เจ้าหน้าที่บัญชีศูนย์บริการโปรตอนเชียงใหม่ บริษัท เอส.โอ. โอโตเซลส์ (Thailand) ยืนยันว่าในช่งเวลาที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจ แต่ได้พยายาม ติดต่อกับบริษัทอยุธยาแคปปิตอล ออโต้ลีส มาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากโดยปกติรถที่ผ่อนชำระได้ ไม่ถึง 1 ปี ไม่สามารถโอนสิทธิ์ไปให้คนอื่นผ่อนต่อหรือซื้อต่อได้ ทำให้ต้องมีขั้นตอนเป็นกรณีพิเศษ
ล่าสุดทางบริษัทได้รับแจ้งว่าสามารถโอนสิทธิ์ได้แล้วจึงเตรียมเอกสารไว้ให้ น.ส.รุ่งอรุณ เซ็นต์ ก่อนจะส่งให้ผู้บริหารเซ็นต์ โดยบริษัทจะซื้อรถคันดังกล่าวคืนเพื่อนำมาเป็นรถใช้งานของบริษัท โดยไม่มีการนำไปขายต่อ


ไทยจัดงาน "เทศกาลคอการ์ตูน" หวังดันการ์ตูนไทยแข่งญี่ปุ่น [Thai cartoon festival ]


 ไทยจัดงาน "เทศกาลคอการ์ตูน" หวังดันการ์ตูนไทยแข่งญี่ปุ่น
 นางปริศนา พงษ์ทัดศิริกุล ผอ.สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.)
กล่าวว่า สศร.ได้ร่วมกับกลุ่มผู้ประกอบการการ์ตูนไทย จัดงาน “เทศกาลคอการ์ตูน ณ กรุงเทพฯ”
ครั้งที่ 1 ขึ้น ระหว่างวันที่ 17 - 19 กันยายนนี้ ณ ลานกิจกรรมชั้น 1 ศูนย์การค้าเอสพลานาดซีนีเพล็กซ์รัชดาภิเษก เพื่อพลิกฟื้นให้เด็กและเยาวชนไทยเข้าถึงศิลปวัฒนธรรมไทย ผ่านสื่อการ์ตูน Games และ Animation

  ขณะเดียวกันจะเป็นการส่งเสริมให้เกิดบุคลากรด้านการ์ตูนรุ่นใหม่ขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา การ์ตูนไทย ได้ขาดการส่งเสริมจากหน่วยงานต่างๆ โดยเฉพาะจากหน่วยงานภาครัฐเอง ส่งผลให้การ์ตูนไทย สู้กับการ์ตูนญี่ปุ่นไม่ได้ ทำให้วัยรุ่นไทยสนใจในการ์ตูนญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก หากทุกฝ่ายหันมาส่งเสริมสร้างบุคลากรด้านการ์ตูนให้มีคุณภาพ ตนคิดว่าจะช่วยพัฒนาผลงานการ์ตูนของไทยเผยแพร่ไปสู่อุตสาหกรรมบันเทิงในระบบ เศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศได้ด้วย
นายวชิรพงษ์ ปรีชาว่องไวกุล ผู้บริหารบริษัท Right Content จำกัด ในฐานะตัวแทนจากกลุ่มผู้ประกอบการการ์ตูนไทย กล่าวว่า มูลค่าทางเศรษฐกิจของการ์ตูนในประเทศไทยมีสูงถึงประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี โดยส่วนแบ่งการ์ตูนไทยอยู่ที่ร้อยละ 5-7 อีกร้อยละ 90 จะเป็นกลุ่มการ์ตูนญี่ปุ่น ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มการ์ตูนจากประเทศอื่นๆ เช่น เกาหลี ฮ่องกง เป็นต้น ซึ่งในอนาคตหากหน่วยงานภาครัฐยังให้การส่งเสริมอยู่เช่นนี้ ทั้งการพัฒนาบุคลากร การจัดกิจกรรม เชื่อว่า ตลาดการ์ตูนไทยจะมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 20 ในอนาคต
“ผมอยากจะบอกกับเด็กและเยาวชนไทยว่า การ์ตูนไทยไม่ได้เชยอย่างที่คิดไม่ได้สวมชฎา ไม่ได้แต่งชุดไทย แต่ได้มีการพัฒนาให้ร่วมสมัยมีเนื้อเรื่องที่น่าสนใจไม่ต่างจากการ์ตูน ญี่ปุ่น อยากให้เด็กไทยมาลองอ่านการ์ตูนไทยมากขึ้น ผมอยากให้รัฐบาลมาส่งเสริมผู้ประกอบการการ์ตูนไทย เพราะการ์ตูนสามารถต่อยอดไปเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่น หรือ ภาพยนตร์ในอนาคต” ผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการ์ตูนกล่าว


Tuesday, September 7, 2010

UN เผยเวียดนามแซงไทย ดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ


บรรดาบริษัทธุรกิจยักษ์ใหญ่ของโลกกำลังวางแผนเพิ่มการลงทุนโดยตรงใน ต่างประเทศในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า โดยเน้นที่ระบบเศรษฐกิจเกิดใหม่รายใหญ่อย่างจีน อินเดีย และบราซิล ในฐานะ 3 แหล่งสำคัญที่สุดของโลกปัจจุบันในการรองรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI)
      
       ในเวลาเดียวกัน สหรัฐอเมริกาที่ก่อนหน้านี้เคยครองตำแหน่งแชมป์มาโดยตลอดและเสียตำแหน่งไป ให้แก่จีนเมื่อปีที่แล้ว ได้รับความสนใจน้อยลงอย่างต่อเนื่อง และในช่วงระยะเวลาจนกระทั่งถึงสิ้นปี 2012 ก็จะได้รับ FDI คิดเป็นอันดับ 4 ของโลกเท่านั้น
      
       สำหรับไทยได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากเป็นอันดับที่ 11 อันเป็นอันดับเดิมของเมื่อหนึ่งปีก่อนหน้า แต่ก็ถูกเวียดนามที่เคยอยู่ในอันดับเดียวกัน แซงหน้าขึ้นไปแล้ว โดยในตอนนี้เวียดนามอยู่ที่อันดับ 8


Sunday, September 5, 2010

บิ้กบัง เสียดายตอนมีอำนาจ ไม่ได้ทำ "ทักษิณโมเดล"



พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน อดีตผู้บรรชาการทหารบก และหัวหน้าคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุข(คมช) เปิดเผยในรายการ “เบื้องหลังคน เบื้องหลังข่าว” ตอนย้อนรอยรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ตอนหนึ่ง ว่า ปัจจัยสำคัญที่ตัดสินใจก่อการครั้งนั้นก็เพราะได้รับจดหมายจากประชาชนเรียก ร้องให้ทหารออกมาช่วยปกป้องบ้านเมือง ซึ่งเก็บไว้จนเต็มตู้เหล็กขนาดใหญ่ภายในกองบัญชาการทหารสูงสุด ส่วนข้อกังวลที่ว่าการใช้กองทัพยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนนั้นจะทำให้ต่างชาติ โจมตีนั้นอยากให้รู้ว่าประชาธิปไตยที่แท้จริงเป็นอย่างไร แล้วจะรู้ว่าบ้านเมืองก่อน 19 ก.ย. 2549 นั้นเป็นประชาธิปไตยหรือเปล่า เรื่องแม้แต่สหรัฐยังรู้ว่าเราเป็นอย่างไร เพราะก่อนหน้าที่จะดำเนินการตนพูดคุยกับเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำประเทศไทย แทบจะตลอดเวลา ดังนั้นสหรัฐฯจึงเข้าใจสภาพการเมืองของไทยเป็นอย่างดี