Thursday, August 18, 2011

คนอเมริกันเริ่มมีความคิด ระบบประธานาธิบดี สู้ระบบรัฐสภาที่มีนายกฯไม่ได้


สำนักข่าว CNN รายงานว่า หลังจากสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Standard and Poor หรือ S&P ลดอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินของสหรัฐ จาก AAA (อ่านว่าทริปเปิลเอ) เหลือ AA+ (อ่านว่า ดับเบิลเอบวก) ทำให้ไม่มีประเทศที่มีระบบประธานาธิบดี ในรูปแบบการปกครองที่อำนาจบริหารกับนิติบัญญัติแยกออกจากกัน และได้รับเรตทริปเปิลเอ จากทั้ง 3 สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ได้แก่ เอสแอนด์พี , มูดี้ส์และฟิทช์ หลงเหลืออยู่เลย มีแต่ระบบกึ่งประธานาธิบดี ที่เป็นการปกครองผสมผสานกันระหว่างระบบรัฐสภาและระบบประธานาธิบดี ที่ยังมีอยู่ รวมทั้งฝรั่งเศสซึ่งแม้จะมีประธานาธิบดีเป็นประมุข แต่ก็มีสภาผู้แทนราษฎรและมีนายกรัฐมนตรี

ฮวน ลินซ์ อาจารย์คณะสัมคมศาสตร์ของมหาวิทยาลัย ให้ความเห็นว่า ระบบที่มีรัฐสภาดีกว่าระบบประธานาธิบดีในแง่ของเสถียรภาพ เพราะฝ่ายบริหารมีที่มาจากสภา ซึ่งทำหน้าที่นิติบัญญัติหรืออกกฎหมาย ตำแหน่งประมุขแห่งรัฐกับหัวหน้ารัฐบาลแยกออกจากกัน อาจเป็นพระมหากษัตริย์หรือประธานาธิบดี เช่น กรณีของนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ของอังกฤษที่เป็นผู้นำรัฐบาลผสม หลังได้รับการเลือกตั้งจากคะแนนเสียงของประชาชน และครองเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎร
. แต่ในระบบประธานาธิบดีของสหรัฐ อำนาจนิติบัญญัติกับบริหารแยกออกจากกัน ต่างฝ่ายต่างโต้เถียงกันว่าทำเพื่อประชาชน และด้วยเหตนี้ ทำให้มีแต่การงัดข้อกันตั้งแต่เรื่องการออกกฎหมายพื้นฐานทั่วไป และยากที่จะบอกได้ว่า ใครทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงที่แท้จริงของประชาชน

อ่านต้นฉบับเพิ่มเติม : CNN World