Tuesday, October 4, 2011

จีนเพิ่มการกดดันพม่า เรื่องที่ระงับโครงการสร้างเขื่อน



สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานว่า บริษัทจีนพยายามกดดันพม่าเพิ่มขึ้น หลังจากพม่าระงับโครงการก่อสร้างเขื่อนเพื่อใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าพลังน้ำ ที่เป็นการลงทุนร่วมและจีนเป็นกำลังหลักทางการเงินอย่างไม่คาดฝัน โดยให้เหตุผลว่า โครงการนี้เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาทางกฎหมายอย่างมาก
ในระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ นายหลู ฉีโจว ประธานบริษัทไชน่า พาวเวอร์ อินเวสต์เม้นท์คอร์ป กล่าวว่า เขารู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง เมื่อประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ของพม่า ประกาศระงับการก่อสร้างเขื่อนมิทโสน มูลค่า 3,600 ล้านดอลล่าร์ หรือกว่า 1 แสนล้านบาท เมื่อวันศุกร์

นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ต่างระบุว่า เขื่อนมิทโสนจะทำให้ชาวบ้านจำนวนนับไม่ถ้วนต้องไร้ที่อยู่อาศัย และยังส่งร้ายต่อระบบนิเวศน์บริเวณแม่น้ำอิระวดี ที่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของพม่า และยังทำให้บริเวณที่เป็นหัวใจสำคัญทางวัฒนธรรมของชนเผ่าคะฉิ่น ต้องจมอยู่ในน้ำอีกด้วย

เขื่อนแห่งนี้ ยังตกอยู่ภายใต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากเชื่อว่า เมื่อสร้างเสร็จ พม่าก็จะส่งออกกระแสไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเขื่อนแห่งนี้ไปยังจีน ในขณะที่ประชาชนจำนวนมากในพม่า ยังไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ เมื่อประธานาธิบดีเต็ง เส่ง ประกาศระงับการสร้างเขื่อน ทำให้เขาได้รับการยกย่องจากหลายฝ่าย รวมทั้งนักเคลื่อนไหวสนับสนุนประชาธิปไตยและรัฐบาลสหรัฐ แต่ได้ส่งผลกระทบค่อนข้างแรงกับจีน ที่ได้ชื่อว่าเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดอันดับสองของพม่า รองจากไทย และดูเหมือนจะลามไปกระทบเรื่องการเมืองด้วย
จีนได้ทุ่มเงินหลายพันล้านดอลล่าร์ ไปกับการลงทุนในพม่า ทั้งเหมืองแร่ , การทำไม้ซุง รวมถึงสร้างท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และยังมั่นคงในการแสดงจุดยืนสนับสนุนทางการเมืองต่อรัฐบาลที่ถูกโดดเดี่ยวอย่างพม่าอีกด้วย