Wednesday, September 21, 2011

พระลูกวัดบางขุนเทียนนอกโต้ถูกแจ้งทำร้าย-ข่มขู่



กรณี พระจิรวัฒน์ ปสฺนโน อายุ 44 ปี พระลูกวัดบางขุนเทียนนอก แขวงและเขตจอมทอง เดินทางแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปราม ให้ดำเนินคดีกับพระลูกวัดเดียวกัน จำนวน 2 รูป ในข้อหาทำร้ายร่างกายและข่มขู่โดยใช้อาวุธปืนทำให้เกิดความตกใจกลัว เหตุเกิดเพราะเข้าใจผิดคิดว่าเดินบิณฑบาตรทับเส้นทางทำให้ได้รับเงินปัจจัยจากญาติโยมน้อยลง ความคืบหน้าเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 22 ก.ย. พระภิชญ์ หรือพระโจ้ ปภัสฺสโร อายุ 26 ปี และหลวงตาอ้วน (สงวนชื่อและนามสกุล) พระลูกวัดบางขุนเทียนนอก เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.ไกรสรณ์ บุญญามิ่ง พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางมด เพื่อขอคำปรึกษากรณีที่ พระจิรวัฒน์ เข้าแจ้งความทำให้วงการพระพุทธศาสนาเสื่อมเสียและมีการให้ข่าวระบุตัวตนของคู่กรณีทำให้ได้รับความอับอาย โดยพระทั้ง 2 รูป นำทะเบียนประวัติพระภิกษุของ พระจิรวัฒน์ มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูด้วย

พระภิชญ์ กล่าวว่า เมื่อวานนี้(21 ก.ย.)มีญาติโยมติดต่อมาหาเจ้าอาวาสวัดบางขุนเทียนนอกว่า พระจิรวัฒน์ เข้าแจ้งความกับตำรวจกองปราบปรามให้ดำเนินคดีกับพระลูกวัดเดียวกันชื่อ พระโจ้ และ พระอ้วน ในข้อหาทำร้ายร่างกายและข่มขู่โดยใช้อาวุธปืนทำให้เกิดความตกใจกลัว ตนในฐานะ 1 ในผู้ถูกกล่าวหาจนได้รับความเสียหายอยากบอกสังคมว่าเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นความจริง เนื่องจาก พระจิรวัฒน์ เข้าแจ้งความเท็จเพราะไม่พอใจที่จะถูกพระอ้วน ซึ่งเป็นพระวินยาธิการ หรือตำรวจพระจับสึก ด้วยสาเหตุที่มีผู้ร้องเรียนเข้ามาว่าพระจิรวัฒน์ เที่ยวไปแอบอ้างชื่อวัดเรี่ยไรเงินจากชาวบ้านไปใช้เป็นการส่วนตัว

พระภิชญ์ กล่าวอีกว่า ทันทีที่ พระจิรวัฒน์ ถูกร้องเรียนเรื่องไปเรี่ยไรเงินจากชาวบ้าน หลวงตาอ้วน และตน จึงรีบดำเนินการสืบสวนพฤติกรรมจนทราบว่ามีมูลเหตุจริง จึงได้เดินทางไปขอความช่วยเหลือจากตำรวจให้ร่วมเดินทางไปเชิญตัว พระจิรวัฒน์ มาลาสิกขาขณะกำลังเดินบิณฑบาตรเรี่ยไรชาวบ้านอยู่ในตลาดเนินสูง ท้องที่ สน.ท่าข้าม แต่ปรากฏว่า พระจิรวัฒน์ ไหวตัวทันหลบหนีออกจากวัดไปก่อน ทำให้พระอุปัชฌาย์ที่วัดราชโอรสารามไม่สามารถทำพิธีจับสึกให้ได้ คาดว่า พระจิรวัฒน์ คงเกิดความโกรธแค้นที่จะถูกจับสึกจึงเดินทางไปแจ้งความเท็จที่กองปราบปรามทำให้ทางวัดเสื่อมเสียได้รับความเสียหาย
ขณะที่ หลวงตาอ้วน กล่าวว่า เรื่องที่ถูกกล่าวหาว่ามีการชักปืนข่มขู่เพราะบิณฑบาตทับเส้นทางนั้นไม่เป็นความจริงแน่นอน เพราะอาตมาเดินไม่ไหวไม่สามารถออกบิณฑบาตรได้ประมาณ 5 ปีแล้ว ที่เดินทางมาวันนี้เพื่ออยากขอคำปรึกษากับทางตำรวจว่าจะทำอะไรได้บ้างเพราะพระพุทธศาสนาถูกทำลายจากพระนอกรีตอีกแล้วส่วนเรื่องแจ้งความเท็จและหมิ่นประมาททำให้ได้รับการดูหมิ่นเกลียดชังอาตมาให้อภัยได้ขอแค่เดินทางมากราบขอขมาก็พอ โดยหลังจากนี้จะเดินทางไปที่กองปราบปรามเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงกับพนักงานสอบสวนและติดตามความคืบหน้าเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย

ด้าน ร.ต.อ.ไกรสรณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงบันทึกประจำวันเอาไว้เนื่องจากต้องการให้พระที่ถูกกล่าวหาทั้ง 2 รูป เดินทางไปที่กองปราบปรามขอดูเอกสารทางคดีให้ชัดเจน เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า พระจิรวัฒน์ เดินทางไปแจ้งความให้ดำเนินคดีหรือแค่ร้องทุกข์กล่าวโทษให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของพระคู่กรณีเท่านั้น เบื้องต้นจึงได้แนะนำให้พระทั้ง 2 รูปเดินทางไปที่กองปราบปรามเพื่อขอตรวจสอบสำนวนคดีจากนั้นให้ผู้ถูกกล่าวหาตัดสินใจเองว่าจะแจ้งความกลับหรือไม่