Thursday, May 20, 2010

wall street journal วิเคราะห์ ศก.ไทย หลังสลายม็อบเสื้อแดง


20 พค. 2553 16:18 น.

บทความในหนังสือพิมพ์วอลสตรีท เจอร์นัล ฉบับวันนี้ ระบุว่า ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลบอกว่าทางการคาดเอาไว้แล้วว่า จะเกิดความรุนแรงหลังเข้าสลายการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง แต่นักวิเคราะห์การเมืองวิตกว่าอาฟเตอร์ช็อคทางการเมือง ยิ่งจะทำให้การต่อสู้ระหว่างฝ่ายอนุรักษ์นิยมที่มีอำนาจอยู่ในมือกับชาวชนบท หรือขบวนการประชานิยมที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณจัดตั้งขึ้น เลวร้ายลง
นายไมเคิล มอนเตซาโน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเมืองไทย และนักวิจัยสถาบันเอเชียตะวันออกศึกษาที่สิงคโปร์บอกว่า การสลายการชุมนุมเมื่อวันพุธ และความรุนแรงที่ตามมา เป็นอันตรายกับการอยู่รอดทางการเมืองของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เพราะการที่กลุ่มผู้ประท้วงล้มเหลวในการขับไล่นายกรัฐมนตรี ยิ่งจะทำให้พวกเขาโกรธแค้นมากขึ้น
ขณะเดียว ด้านนายธิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ นักรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยก็บอกว่า ในกลุ่มผู้ประท้วงเสื้อแดงอาจใช้ยุทธศาสตร์แบบ hit-and-run หรือซุ่มโจมตีแล้วหลบ เพราะตอนนี้พวกเขามีความรู้สึกเหมือนถูกตัดสิทธิ์ จึงไม่เคารพระบบอีกต่อไป ขณะที่รัฐบาลก็ยังคงดิ้นรนหาทางแก้ไขปัญหากรณีพิพาทในแนวทางสันติต่อไป
ด้านนักเศรษฐศาสตร์บอกว่าการจลาจลอาจทำให้โอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศเสียหาย ต่อไป ในช่วงที่เพื่อนบ้านต่างกำลังฟื้นตัวจากวิกฤติเศรษฐกิจ โดยหากการจลาจลขยายไปยังที่อื่น ก็อาจทำให้ประเทศไม่มีเสถียรภาพในแบบที่สามารถปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ทาง เศรษฐกิจของประเทศ จากการเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจเปิดกว้าง และเน้นเรื่องการส่งออก ได้นานหลายปี
ส่วน สัญชัย มาเธอร์ นักเศรษฐศาสตร์เอเชีย จากธนาคารรอยัล ออฟ สก็อตแลนด์ ในสิงคโปร์ บอกว่า ไทยอาจถูกกระหน่ำ หากการจลาจลในกรุงเทพ ถูกต่างจังหวัดลอกเลียนแบบไป
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ของโกลด์แมน แซ็คส์ เตือนว่า ไทยยังคงเจอกับอุปสรรคสำคัญหลายเรื่อง ก่อนที่นักลงทุนจะสามารถมั่นใจได้ว่า ประเทศจะกลับมาเดินได้ตามปกติ รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องให้มีการเลือกตั้งใหม่ และการออกมาตรการที่จะลดความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ที่ยังแตกต่างกันอยู่ มาก ซึ่งเรื่องแบบนี้ต้องการสถานการณ์การเมืองที่นิ่ง แต่จากปัญหาที่เกิดขึ้น ก็เท่ากับผลักดันให้ความสำเร็จในเรื่องนี้ ลอยไกลออกไป ความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ยังดำเนินอยู่ ทำให้ไทยอยู่ในสภาพที่เป็นรอง เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน
ด้านวิลเลี่ยม ไฮเน็คเก้ ประธานและผู้บริหารโรงแรมและบริษัทค้าปลีก ไมเนอร์อินเตอร์เนชั่นแนล พีแอลซี บอกว่า บริษัทของเขาสามารถกลับมาเปิดกิจการโรงแรมและร้านอาหารในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็เกรงว่า นักท่องเที่ยวอาจจะไม่เลือกมาที่ไทยอีกนาน
แต่ผู้บริหารและนักลงทุนบางคนก็มองว่าการเคลียร์กลุ่มผู้ชุมนุม ชี้ว่าไทยกำลังกลับสู่ภาวะปกติ อย่างเกรซ แทม รองประธานฝ่ายการลงทุนของเจพี มอร์แกน แอสเซต เมเนจเม้นต์ ในฮ่องกง บอกว่า ความไม่แน่นอนยังคงอยู่ แต่ก็คงไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว ขณะที่คนอื่นๆก็บอกว่าความรุนแรงอาจจะทำให้ภาพพจน์ประเทศเสียไป แต่รัฐบาลก็แสดงให้เห็นว่าสามารถบังคับใช้กฏหมายได้