Thursday, May 20, 2010

ไร้เสียงชื่นชมเหตุเลวร้ายของชาติ



วันศุกร์ ที่ 21 พฤษภาคม 2553 เวลา 7:23 น

การประกาศเคอร์ฟิวในช่วงค่ำจนถึงรุ่งเช้ายังคง มีต่อไปอีกจนถึงเช้าวันอาทิตย์ 23 พ.ค. นี้ ส่วนจะมีการต่อเคอร์ฟิว อีกหรือไม่ ก็อยู่ที่สถานการณ์การเผาเมืองจะยุติลงเด็ดขาดหรือไม่ ถ้ามิสามารถที่จะกวาดล้างผู้ก่อเหตุเผาบ้านเผาเมืองใจกลางกรุงเทพมหานครได้ อย่างราบคาบก็น่าเป็นห่วง เพราะว่าวันจันทร์ที่ 24 พ.ค. นี้ ก็จะเป็นวันเปิดทำงานตามปกติของหน่วยราชการต่าง ๆ พร้อมทั้งโรงเรียนต่าง ๆ ก็จะเปิดเรียนวันแรก ทางรัฐบาลจะต้องหาทาง อย่างใดอย่างหนึ่งที่จะคุ้มครองชีวิตประชาชนผู้บริสุทธิ์ และทำให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินชีวิตตามปกติในวันทำงาน

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์วันดีเดย์ขอคืนพื้นที่ของ
ศูนย์อำนวยการ แก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินหรือ ศอฉ. ปิดล้อมกด ดันจนแกนนำม็อบเสื้อแดงขอเข้ามอบตัวและให้ยุติการชุมนุม จนเหตุบานปลายเผาบ้านเผาเมืองที่เป็นสัญลักษณ์ทางเศรษฐกิจของประเทศไทยจนพัง พินาศไปหลายแสนล้านบาท และส่งผลกระทบ ไปถึงด้านต่าง ๆ ที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ซึ่งมีนักวิชาการหลายฝ่ายต่างก็มองเห็นเหตุจลาจลในวันที่ 19 พ.ค. ที่ผ่านมา เหตุเลว ร้ายที่สุดในรอบ 100 ปี ของประวัติศาสตร์การเมืองไทย นับว่าเป็นการมองที่ถูกต้องจึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เป็นคนไทยจะได้ตระหนักและจด จำเอาไว้

เหตุการณ์ความไม่สงบในกรุงเทพมหานคร ณ
วันนี้ ยังไม่ถึงจุดจบสิ้น แต่ปัญหาทางด้านจิตใจของประชาชนที่ได้ รับผลกระทบจากการสลายการชุมนุมได้เกิดขึ้นแล้ว และปัญหาความเสียหายทางด้านเศรษฐกิจของไทยก็ได้เกิดขึ้นมานานแล้วนับตั้งแต่ ม็อบเสื้อแดงได้ทำการยึดสี่แยกราชประสงค์เป็นที่ชุมนุมประท้วง เพราะฉะนั้นรัฐบาลจะต้องหามาตรการแก้ไขปัญหาผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจให้ ประเทศชาติให้เป็นรูปธรรมโดยด่วน ควบคู่ไปกับการแก้ไขปัญหาการเมือง ถ้ามาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจะดีเพียงใด แต่การแก้ปัญหาการเมืองไม่ได้ดีก็จะส่งผลเสียถึงเศรษฐกิจเช่นเดิม

จากกระแสต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศที่สะท้อนออกมาจากการสลายม็อบ ด้วยกำลังทหาร และม็อบบางคนก่อเหตุร้ายจุดไฟท่วมเมือง ไม่มีเสียงใด ๆ ที่จะชื่นชมฝ่ายใดเลย ถึงแม้รัฐบาลจะมีความชอบธรรมตามกฎหมายในการดำเนินการ แต่ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนหนึ่ง และม็อบก็จุดชนวนเผาเมืองขึ้นมา เหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นชี้ให้เห็นว่าการเปิดโต๊ะเจรจากันด้วยความจริงใจเท่า นั้นที่จะไม่ก่อให้เหตุการณ์ลุกลามจนประเทศชาติพังยับเยิน ก็อยากให้ทุกฝ่ายเก็บไปคิดเพื่อมิให้เกิดขึ้นมาในอนาคตอีก รัฐบาลก็จะไม่ต้องเปื้อนเลือด และม็อบก็จะไม่กลายเป็นผู้ก่อการร้าย.

ที่มา : Daily News