องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เผยเมื่อวันอังคารว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ 2009 ทั่วโลกนับจากเดือนเมษายน ทะยานถึง 1,154 คน นับจนถึงวันที่ 31 ก.ค.และไม่พบพลักฐานที่บ่งชี้ว่า ไวรัสเอช1เอ็น1 ชนิด Aมีการกลายพันธุ์ พบแต่ผู้ป่วยดื้อยาต้านไวรัสทามิฟลู 6 คน ด้านแกล็กโซสมิธไคลน์ เผยมียอดสั่งซื้อวัคซีนต้านหวัดสายพันธุ์ใหม่เพิ่มจาก 9 ประเทศ รวมปริมาณ 195 ล้านโดสพร้อมส่งมอบล็อตแรกเดือนก.ย.นี้
การที่มียอดผู้เสียชีวิตเพิ่มกว่า 300 คนในอเมริกา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตโดยรวมในภูมิภาคนี้เพิ่มเป็น 1,008 คน นับตั้งแต่ไวรัสเอช1 เอ็น1 ประเภทA แพร่ระบาดครั้งแรกในเม็กซิโก และสหรัฐ ก่อนจะลุกลามไปยังประเทศอื่นๆทั่วโลก ทางด้านเจ้าหน้าที่ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ของWHO ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสตัวนี้อาจจะสูงถึง 162,380 คน แต่ WHO กล่าวว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่สามารถนำมาใช้อ้างอิงว่าเป็นยอดผู้ติดเชื้อโดยรวมทั่วโลก ได้ เนื่องจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดหนัก ไม่ได้ตรวจสอบประชาชนทุกคนที่มีอาการหวัด จนถึงขณะนี้ มีอย่างน้อย 168 ประเทศ ที่ยืนยันว่ามีผู้ป่วยโรคนี้
ทางด้านแกล็กโซสมิธ ไคลน์ บริษัทเวชภัณฑ์ชั้นนำของโลกสัญชาติอังกฤษ เปิดเผยว่า มีประเทศที่สั่งซื้อวัคซีนต้านหวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่เพิ่มอีก 9 ประเทศ ยอดสั่งซื้อจำนวน 96 ล้านโดส นับตั้งแต่เดือนที่แล้ว ทำให้ยอดสั่งซื้อวัคซีนของบริษัทโดยรวมขณะนี้เพิ่มเป็น 195 ล้านโดส กับมีผลิตภัณฑ์อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่ ประเทศต่างๆได้สั่งซื้อมาในช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึง อังกฤษ และสหรัฐ ปริมาณรวม 291 ล้านโดส
แถลงการณ์จากแกล็กโซสมิธไคลน์ ระบุด้วยว่า การจัดส่งวัคซีนล็อตแรกแก่ประเทศลูกค้าจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่เดือนก.ย. เป็นต้นไป แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าเชื้อไวรัสเอช1เอ็น1 ประเภทA ที่นำมาใช้ทำวัคซีนเติบโตได้ดีแค่ไหน โดยเมื่อเดือนที่แล้ว WHO ระบุว่า เชื้อไวรัสที่ถูกนำมาใช้ผลิตวัคซีนไม่สามารถผลิตส่วนประกอบสำคัญๆได้อย่าง เพียงพอ ขณะที่อังกฤษอ้างว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนให้คนในประเทศได้ภายในปลายเดือนนี้ |
