Nectecโพสต์แสดงความเสียใจกับการจากไปของ"เกียรติมันต์"

ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ เป็นตัวแทนของศูนย์ฯ โพสต์ข้อความไว้อาลัยต่อการจากไปของ นายเกียรติมันต์ รอดอารีย์ นักเรียนทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ (โท-เอก) จากอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถตู้บนทางด่วนโทลล์เวย์ โดยบอกว่าขอแสดงความเสียใจ กับการจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ของคุณเกียรติมันต์ รอดอารีย์ ซึ่งมาช่วยปฏิบัติงานวิจัยในห้องปฏิบัติการวิจัยนาโนอิเล็กทรอนิกส์และ เครื่องกลจุลภาค (MEM) โดยในวันเกิดเหตุคุณเกียรติมันต์อยู่ปฏิบัติงานที่ lab จนค่ำ จึงได้เดินทางกลับที่พัก และประสบเหตุ

คุณเกียรติมันต์มีความสนใจในเรื่องวิศวกรรมนาโนฯ มาตั้งแต่เรียนที่โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และ ระหว่างศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เข้ามาฝึกงาน และทำโครงงานวิจัยตั้งแต่ปี 2552 ที่ Lab MEM และจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ 1 สาขา Nano Engineering (International Program) ด้วยคะแนน 3.90 เมื่อเดือนมิถุนายน 2553 ที่ผ่านมา รวมทั้ง เพิ่งได้รับทุนกระทรวงวิทยาศาสตร์ ฯ และอยู่ระหว่างการเตรียมตัวเดินทางเพื่อไปศึกษาต่อในต่าง ประเทศ ในระหว่างที่มาฝึกงานและช่วยปฏิบัติงานวิจัยที่ MEM คุณเกียรติมันต์เป็นผู้ที่มีความประพฤติเรียบร้อย มีความตั้งใจสูง ทุ่มเททำงานจนมีผลงานที่โดดเด่นเป็นอย่างมาก เคยได้รับการตอบรับไปนำ เสนอ paper ที่ฮ่องกงในระหว่างศึกษาระดับปริญญาตรี และล่าสุดคือ paper ที่เขียนอยู่ได้รับการ ตอบรับเพื่อตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติชั้นนำทางด้าน วิศวกรรมนาโนฯ การสูญเสียครั้งนี้จึงถือได้ การสูญเสียบุคลากรที่มีคุณค่า และบุคคลที่จะเป็นกำลังสำคัญด้านงานวิจัยของประเทศในอนาคต ใน นามของผู้บริหารเนคเทค ผมจึงขอไว้อาลัยกับการจากไปของคุณเกียรติมันต์มา และขอให้บุญกุศลที่คุณ เกียรติมันต์ได้ทำมา นำพาให้คุณเกียรติมันต์ไปสูสุคติด้วยเทอญ

โลกไซเบอร์กระหน่ำโจมตี "แพรวา" ยอด Like เฉียดแสน!!

วันที่ 29 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกระแสสังคมในโลกออนไลน์ พบว่าขณะนี้ได้มีการวิพากย์วิจารณ์ ถึงการกระทำของน.ส.อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา หรือน้องแพรวา ภายหลังที่เกิดเหตุการร์ขับรถยนต์ชนท้ายรถตู้โดยสาร บนทางด่วนโทลล์เวย์ จนทำให้มีผุ้เสียชีวิตจำนวนมากหลายรายนั้น โดยขณะนี้ในเฟสบุ้ค สังคมออนไลน์ ได้มีการตั้งกลุ่มภายใต้ชื่อว่า " มั่นใจว่าคนไทยเกินล้านคน ไม่พอใจแพรวา (อรชร เทพหัสดิน ณอยุธยา) โดยมีกลุ่มคนให้ความสนใจมากกว่า 86,840 คน นอกจากนี้ยังมีการสืบหาทั้งรูป และ ประวัติส่วนตัวของ น.ส.อรชร มาลงในเฟสบุ้ค ท่ามกลางกระแสการต่อว่าอย่างยับเยิน
นอกจากนี้ ในบีบี มีการโพสต์ข้อความวิพากย์วิจารณ์ถึงการกระทำของน.ส.อรชร อย่างต่อเนื่อง อาทิเช่นข้อความว่า " เป็นเด็กแค่อายุ 16 ปี หลังเกิดเหตุ ถูกแจ้งข้อหา ไม่มีใบอนุญาตใบขับขี่ ปรับเงินแค่ 400 บาทแล้วปล่อยตัวไป"

นอกจากนี้ยังมีข้อความที่น่าสนใจอีกว่า "คนใกล้ชิดให้เดินทางออกนอกประเทศไปก่อน" ซึ่งข้อความที่ปรากฏดังกล่าวได้มีการฟอร์เวิล์ดส่งต่อกันไปมากันไป อย่างกว้างขวาง 1 นาทีมีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นประมาณ 20 คนเลยทีเดียว และยังมีการโพสรูปถ่ายหลังเกิดเหตุที่น.ส.อรชร ยืนข้างรถยนต์ของตัวเองหลังจากที่เกิดเหตุในสภาพที่บาดเจ็บไม่มากนัก ลักษณะกำลังยืนกดโทรศัพท์ หรือส่งข้อความผ่านบีบี

ซึ่งรูปดังกล่าวได้ถูกวิพากย์วิจารณ์อย่างหนักว่า อาการบาดเจ็บไม่มากนัก ,ไม่เข้าไปช่วยเหลือคนเจ็บ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ออกมาต่อต้านการกระทำของน.ส.อรชร พร้อมกับเปิดให้เขียนไว้อาลัยให้กับนักศึกษาและอาจารย์ของมหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ที่เสียชีวิตอีกด้วย พร้อมกันที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต ได้มีการนำใบปลิวมาติดไว้ในสถานที่ต่าง ๆภายในมหาวิทยาลัย ลักษณะไม่พอใจอีกด้วย อย่างไรก็ตามบรรดานักสืบไซเปอร์ ได้มีการช่วยกันหาข้อมูล รูปถ่ายต่าง ๆของน.ส.อรชร แต่ปรากฏว่าเวปลิ้งค์ต่าง ๆได้ถูกบล็อคไม่สามารถเปิดหาข้อมูลของน.ส.อรชรได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• Nectecโพสต์แสดงความเสียใจกับการจากไปของ"เกียรติมันต์"
  
• โลกไซเบอร์ เรียกร้องสาว 16 ปี มีจิตสำนึก
• โลกไซเบอร์กระหน่ำโจมตี "แพรวา" ยอด Like เฉียดแสน!!
• ตระกูลเทพหัสดินฯ แถลงการณ์ ย้ำสาวซีวิคไม่ได้ชน แค่หักหลบ
  

โลกไซเบอร์ เรียกร้องสาว 16 ปี มีจิตสำนึก

เมื่อช่วงเย็นเมื่อวันที่ 28 ธ.ค ที่ผ่านมา ชาวไซเบอร์รวมพลังกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความต่าง ๆ มากมายทางเว็บไซต์ ผ่านทางFacebook และได้มีการฟอร์เวิลด์ข้อความต่างๆในบีบี ซึ่งมีเนื้อหาที่ว่ากล่าว ด่าทอ เด็กสาววัย 16 ปี ที่ขับรถยนต์ชนท้ายรถตู้ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายราย

หลังเกิดเหตุได้มีกระแสข่าวโพสต์ต่าง ๆนานาทั้งในfacebook และทางบีบีลักษณะว่า สาววัย 16 ปี หลังจากเกิดเหตุได้ยืนเล่นโทรศัพท์ใกล้กับรถยนต์ของตัวเอง โดยรูปภาพดังกล่าวได้แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เกิดความรู้สึกที่ไม่ดี จนมีการโพสต์ข้อความต่าง ๆนานา อาทิ "ความยุติธรรมให้นักศึกษาธรรมศาสตร์ที่เสียชีวิตจากเด็กอายุ 16 ปี ที่ขับรถชนรถตู้จนพวกเขาเสียชีวิต ภาพจากกล้องวงจรปิดบนทางด่วนโทล์เวย์ช่วงเกิดเหตุ รถตู้วิ่งอยู้เลนกลางด้วยความเร็วประมาณ 80 กม./ชม. รถเก๋งซีวิควิ่งตามมาด้วยความเร็วสูง แล้วเกิดเปลี่ยนเลนไปทางขวากระทันหัน ทำให้ด้านหน้ารถเก๋งชนท้ายขวาของรถตู้อย่างแรง ทำให้รถตู้หมุนหัวรถไปทางด้านซ้าย และวินาทีต่อมารถเก๋งซึ่งเสียหลักหมุมเช่นกัน ส่งผลให้ด้านขวาของรถเก๋งกระแทกซ้ำเข้าไปที่ด้านซ้ายของรถตู้อย่างจัง ผลจากการชนนั้นทหให้รถตู้กระแทกเข้าไปที่ขอบปูนอย่างรุนแรง จนด้านหน้าของรถตู้ฉีกขาด ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ภายในรถหลุดกระเด็นออกมาเสียชีวิตดังกล่าว โดยช่วงระยะเวลาที่เกิดเหตุนั้นรวมเพียงแค่ 5-6 วินาทีเท่านั้น" พร้อมกันนี้ยังมีการสืบค้นประวัติของสาววัย 16 ปี ออกมาเผยแพร่กันอย่างกว้างขวาง ชาวfacebook ได้แสดงออกต่าง ๆนานา ส่วนใหญ่ระบุว่า หญิงสาววัย 16 ปี ไม่มีจิตสำนึก และต้องการเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ที่เสียชีวิต ไม่อยากให้คนผิดต้องลอยนวล รูปของ แพรวา ตอนนี้ถูกลบหมดแล้ว และให้ข่าวว่าพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล มีเหลืออยู่รูปเดียวที่นักข่าวบังเอิญถ่ายได้หลังรถชน ซึ่งหล่อนลงมาพิมพ์บีบีและอัพสเตตัสเฟสบุ๊คอยู่หน้ารถตัวเองหลังชน

แจ้งจับ "เซเลปไอที" @sugree ฉ้อโกงเงิน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2553 นายปมวัช บุญวงศ์อายุ 28 ปี อยู่เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ ได้มาร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปราม (บก.ป) เพื่อดำเนินคดีอาญากับ นายสุกรี พัฒนภิรมย์ ว่าหลอกลวงด้วยการชวนเชื่อทางอินเตอร์เนต https://Forums.bthai.com โดยให้ผู้ที่สนใจลงทุนซื้อของที่หลุดจากกรมศุลกากรเพื่อนำไปขายต่อที่ร้าน ริมชีวิต โดยมีเงื่อนไขให้ค่าตอบแทนต่อผู้ร่วมลงทุนร้อยละ 10 ต่อเดือน ของเงินที่ลงทุน
ผู้แจ้งระบุว่า เห็นว่านายสุกรีเป็นนักศึกษาปริญญาเอก คณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อีกทั้งเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เป็นอาจารย์บรรยายในงานสัมมนาโครงการเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ทำให้ผู้แจ้งซึ่งสมัครเป็นสมาชิกในเว็บบอร์ดดังกล่าวทราบและหลงเชื่อ จึงร่วมลงทุนเป็นเงิน 4 แสนบาท โดยโอนเงินผ่านธนาคารให้นายสุกรี จากนั้นก็ได้รับเงินผลการตอบแทนคืนจากการลงทุน 2 หมื่นบาท และ 4 หมื่นบาทตามลำดับ ต่อมาเมื่อเดือนมกราคม 2553 นายสุกรีไม่ยอมจ่ายผลตอบแทนคืนให้อีก จึงติดตามทวงถาม และทราบว่ายังมีบุคคลอื่นอีกหลายคนที่ได้รับความเสียหาย ทำให้ทราบความจริงว่านายสุกรีหลอกลวง โดยมีเจตนาเอาเงินของผู้แจ้งไปทำให้ได้รับความเสียหาย จึงร้องทุกข์เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับนายสุกรี จนกว่าคดีจะถึงที่สิ้นสุด
เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบที่ บก.ป. ทราบว่าจากการสอบสวนเบื้องต้นของพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. ผู้ที่ได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวเฉพาะที่ได้เข้าแจ้งความครั้งนี้มี ทั้งสิ้น 25 คน มูลค่าความเสียหายเป็นหลักล้านบาท แต่พฤติการณ์ที่มีการกล่าวหานั้นเกิดขึ้นในระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับ อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) จึงประมวลเรื่องส่งให้พนักงานสอบสวน บก.ปอท.ดำเนินการต่อ โดยทำเรื่องถึง ผบก.ปอท.ตั้งเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาแล้ว
ด้านนายสุกรี พัฒนภิรมย์ เซเลปไอทีคนดัง ยอมรับว่าได้โพสต์ข้อความชักชวนลงทุนบนเวบบอร์ดจริง โดยเป็นคนกลางสื่อสารการลงทุนให้กับเพื่อนคนหนึ่งซื้อตุ๊กตาส่งขายตามร้าน ส่ง จากนั้นก็มีสมาชิกโอนเงินเข้ามาร่วมลงทุนจำนวน 39 คน รวมเงินกว่า 14 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 ก็เริ่มส่งเงินปันผลให้กับสมาชิกทุก 2 สัปดาห์ได้ประมาณ 3 เดือน กระทั่งเดือนมกราคม 2553 เริ่มมีสมาชิกโวยวายว่ายังไม่ได้รับเงินปันผล ก็ได้ทวงถามเพื่อนก็ได้รับคำตอบว่า ไม่มีเงิน จึงใช้เงินส่วนตัวส่งเป็นเงินปันผลให้กับสมาชิกจนเงินหมด และมีสมาชิกบางคนให้ตนแบ่งที่ดินที่บ้านย่านบางมดขาย จึงประกาศขายที่ดิน 1 ไร่ 2 งาน ราคา 10 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถขายได้เพราะยังติดขัดปัญหาหลายอย่าง
"ตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ทำงานใช้หนี้ไป บางคนก็คุยส่วนตัวทำสัญญาประนอมหนี้ หยุดเงินผลตอบแทนแล้วนะ แต่จะใช้คืนเงินให้ ทำสัญญาให้เขาสบายใจ เงินเดือนผมน้อย ก็จะทำงานเยอะ ๆ หาเงินใช้หนี้ ไม่นานก็คงหมด"นายสุกรีกล่าวและว่า ตอนนี้คงยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้มากเพราะทนายเตือนเรื่องให้ข่าวเพราะ เป็นคดีแพ่ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม : [กระทู้สอนใจ] เมื่อผมถูกคนดังในเน็ตโกงเงิน

อั้ม พลอย อนันดา ปรากฏตัวในงาน Red Bull Racing บนถนนราชดำเนิน

เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ได้เวลาที่ประชาชนชาวไทยทั้งประเทศตั้งตารอคอย เมื่อกรุงเทพมหานครและเครื่องดื่มกระทิงแดงร่วมกันสร้างปรากฎการณ์หน้าใหม่ ด้วยการปิดถนนราชดำเนินตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าลีลาศจนถึงสี่แยกคอกวัว เพื่อเปิดทางให้คณะ "Red Bull Racing" สุดยอดทีมฟอร์มูล่า1 ซึ่งเพิ่งคว้าแชมป์โลกปี 2010 ขับโชว์บนถนนสายประวัติศาสตร์ "ราชดำเนิน" ในรายการ "ราชดำเนิน เรดบูล แบงค็อก 2010"

รถไฟกรุงเทพฯ-กันตังตกราง ครั้งที่3 ในรอบ3เดือน ไม่มีเจ็บ-ตาย

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 14 ธ.ค.ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถไฟ ขบวนรถด่วนกรุงเทพ-ตรัง ขบวนที่ 83 ตกรางที่บริเวณ หมู่ 10 ต.นาท่ามเหนือ อ.เมือง จ.ตรัง จึงเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุพบรถไฟขบวนดังกล่าว เดินทางจาก กทม. ปลายทางที่สถานีรถไฟตรัง สภาพโบกี้รถไฟได้ตกลงมาจากราง จำนวน 6 โบกี้ ประกอบด้วยตู้เสบียง 1 โบกี้ ตู้รถไฟปรับอากาศชั้น 2 ตกราง 3โบกี้ และ ตู้นอนปรับอากาศชั้น 1 ตกราง 2 โบกี้ ไม่มีผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ มีแค่อาการตกใจเล็กน้อย ในขณะที่พนักงานขับรถไฟขบวนดังกล่าว ระบุว่า สาเหตุน่าจะเกิดมาจากรางรถไฟที่เสื่อมสภาพ เนื่องจากใช้งานมาเป็นเวลามากกว่า 50 ปี ได้ชำรุดและขาดออกจากกันประมาณ 50 เมตร ทำให้ขบวนรถไฟไม่สามารถวิ่งต่อไปได้ นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยสาเหตุที่สภาพดินอ่อนนุ่ม จากสภาวะฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลาหลายวัน ทำให้ดินสามารถรองรับรางรถไฟในสภาพที่ไม่ปกติ โดยการประเมินมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นคาดว่า เสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา รถไฟขบวนที่ 167 วิ่งระหว่าง กรุงเทพฯ-กันตัง ได้ประสบอุบัติเหตุตกราง เนื่องจากสาเหตุ หัวรถจักรได้ตกรางและลากเป็นความยาวกว่า 200 เมตร มีน๊อตขาดมากกว่า 3 จุด ที่บริเวณหมู่ที่ 2 ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้การรถไฟแห่งประเทศไทยเพิ่งมีนโยบายในการซ่อมแซมปรับปรุงรางรถไฟ ตั้งแต่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช จนถึงสถานีกันตัง จ.ตรัง เป็นระยะทางกว่า 100 กิโลเมตรเมตร โดยอนุมัติงบประมาณกว่า 700 ล้านบาท เพื่อซ่อมแซมรางรถไฟจากเดินที่ใช้รางรถไฟขนาด 60 ปอนด์เปลี่ยนเป็น 100 ปอนด์ และเปลี่ยนไม้หมอนมาเป็นคอนกรีต เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและคงทนรองรับการขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด นายประหยัด กาญจน์โสภณ นายสถานีรถไฟตรัง กล่าวว่า จากการที่รถไฟตกราง ส่งผลให้ขบวนรถด่วนไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ ส่วนขบวนรถเร็วยังสามารถวิ่งได้ ซึ่งคาดว่าวันพรุ่งนี้จะมีการซ่อมแซมรางรถไฟ จนสามารถเปิดใช้งานได้ตามปกติ